บทความนี้จะมาแนะนำ 10 อันดับ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ให้สำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องชงกาแฟ ไม่ว่าคุณจะนำไปใช้ชงเองที่บ้าน หรือจะเปิดร้านกาแฟ หรือจะเอาไว้ใช้ในสำนักงานและสถานประกอบการต่างๆ ก็ตาม โดยเราได้คัดสรรเครื่องทํากาแฟจากแบรนด์ดังมากมายมาไว้ให้คุณที่นี่แล้ว พร้อมเกร็ดความรู้ดีๆ เพื่อแนะนำการดื่มกาแฟที่ถูกต้องและดีต่อสุขภาพ เพราะการดื่มกาแฟในชีวิตประจำวันถือเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้สำหรับคนทำงานหรือคอกาแฟ ซึ่งในกาแฟมีคาเฟอีนที่หากได้รับในปริมาณมากเกินไปก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ แต่คาเฟอีนก็เป็นสารที่ช่วยปลุกความตื่นตัวได้ในทันที ทั้งยังช่วยกระตุ้นความจำ กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ แถมยังช่วยลดความเครียดได้ แต่ก็ต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน จะดื่มกาแฟให้ดีต่อสุขภาพอย่างไร และจะเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในแบบของคุณ ไปดูกันได้เลย | จัดอันดับโดย pro4289
ประโยชน์ของการดื่มกาแฟ
กาแฟมีคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารที่หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ แต่ก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน หากว่าคุณดื่มในปริมาณที่เหมาะสมและมีการจำกัดครีมเทียม นม และน้ำตาลอย่างพอเหมาะ ก็จะช่วยสร้างประโยชน์ดีๆ ให้กับร่างกายได้มากมาย ดังนี้
- การดื่มกาแฟช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีลดลงได้ถึง 25%
- ช่วยลดความเครียดได้ การดื่มหรือจิบกาแฟจะสามารถลดความเครียดได้ถึง 20%
- ลดโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ประมาณ 50% เพราะคาเฟอีนมีคุณสมบัติที่สามารถยับยั้ง hIAPP และโพลีเปปไทด์ ซึ่งเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดโปรตีนผิดปกติ อันเป็นสาเหตุของการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
- ช่วยกระตุ้นความจำ หากดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน จะช่วยพัฒนาความจำและปฏิกิริยาตอบโต้ได้ดียิ่งขึ้น
- การดื่มกาแฟช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็ง ได้แก่ เซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับ โดยประสิทธิภาพของคาเฟอีนจะช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติและกำจัดสารพิษที่ร่างกายได้รับได้ดีในระดับหนึ่ง
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้ดี ทำให้น้ำหนักคุณลดลงได้
- ปลุกความตื่นตัวได้ในทันที เพราะคาเฟอีนมีคุณสมบัติที่สามารถปลุกความตื่นตัวให้กับร่างกายที่อ่อนล้าหรืออ่อนเพลียได้ในระยะเวลาสั้นๆ
- คาเฟอีนในกาแฟสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคพาร์กินสันได้ถึง 25%
- ลดโอกาสการเป็นโรคเกาต์ได้ถึง 60% เพราะคาเฟอีนมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอักเสบของข้อได้
ดื่มกาแฟอย่างไร เพื่อสุขภาพที่ดี
สำหรับการดื่มกาแฟที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพ คุณควรเลือกกาแฟที่ไม่แรงจนเกินไปกับตัวของคุณเอง เพราะกาแฟแต่ละชนิดมีปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกัน ซึ่งความแตกต่างนี้เกิดจากระบบการย่อยและความสามารถในการดูดซึมของร่างกายของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีอาการแพ้กาแฟหรือดื่มได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น โดยคุณต้องลองดื่มกาแฟดูก่อน เพื่อให้ทราบว่าคุณจะเหมาะกับการดื่มกาแฟแบบไหน แต่การดื่มกาแฟก็มีข้อจำกัดสำหรับคนที่ไม่ควรดื่มหรือดื่มได้ แต่ต้องดื่มในปริมาณที่พอดี ซึ่งมีดังนี้
- หญิงมีครรภ์และเด็กไม่ควรที่จะดื่มกาแฟ เพราะการดื่มกาแฟจะไปขัดขวางการดูดซึมของแคลเซียมได้
- ควรดื่มกาแฟในช่วงมื้อเช้าหรือช่วงที่ต้องการให้เกิดการตื่นตัวเท่านั้น และไม่ควรดื่มกาแฟในช่วงเย็นหรือช่วงเวลาที่ใกล้พักผ่อน เพราะจะส่งผลต่อการนอนหลับ ที่อาจทำให้นอนไม่หลับในช่วงกลางคืนและทำให้รู้สึกพักผ่อนไม่พอเพียงได้
- กาแฟไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต
- สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ควรดื่มกาแฟเกินวันละ 3 แก้ว
ประเภทของเครื่องชงกาแฟ
- เครื่องชงกาแฟแบบดริป หรือ แบบหยด (Drip Coffee Maker)
เครื่องชงกาแฟแบบดริปหรือแบบหยด เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากใช้งานง่าย พกพาสะดวก และใช้พื้นที่ไม่มาก เป็นเครื่องชงกาแฟแบบการดริปกาแฟ โดยใช้น้ำร้อนที่เดือดจัดต้มกาแฟหรือเทใส่เหยือกกรองที่ใส่กาแฟไว้แล้วให้น้ำค่อยๆ ไหลผ่าน Filter กรองลงมาเป็นหยดน้ำ เหมาะสำหรับกาแฟที่คั่วอ่อนๆ หรือคั่วกลางๆ แล้วนำมาบด ซึ่งเครื่องชงกาแฟประเภทนี้ สามารถชงได้แก้วต่อแก้ว และเก็บล้างทำความสะอาดได้ง่าย กระดาษกรองก็หาซื้อเปลี่ยนได้ไม่ยาก ทั้งนี้สำหรับบางเครื่องบางรุ่นก็สามารถทำได้ 10 – 15 แก้ว แถมราคาก็ไม่แพง
- เครื่องชงกาแฟแบบเฟรนซ์เพรส (French Press Machine)
เป็นอุปกรณ์การชงกาแฟที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส เครื่องชงกาแฟประเภทนี้สะดวกกว่าเครื่องชงกาแฟแบบอื่นๆ เพราะไม่ต้องซื้อกระดาษกรองมาใส่ ใช้งานโดยการเติมเมล็ดกาแฟบดลงในกระบอกแก้ว รินน้ำร้อนให้ท่วม แล้วรอเวลาสักพัก จากนั้นกดที่ลูกสูบก็จะได้น้ำกาแฟที่ต้องการออกมา เป็นเครื่องชงกาแฟที่ได้รสชาติแบบเข้มข้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบกาแฟที่มีกลิ่นหอมและมีความเข้มข้น
- เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ (Espresso Machine)
เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ มีวิธีการชงโดยใช้แรงดันของไอน้ำเข้าไปทำให้กาแฟเดือด เพื่อบ่มเอารสชาติของกาแฟออกมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งเครื่องชงกาแฟประเภทนี้จะพบเห็นได้จากร้านกาแฟสด และถือเป็นเครื่องทำกาแฟที่มีราคาหลากหลายที่สุด โดยเริ่มตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่น แถมดีไซน์ยังสวยงามและมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
- เครื่องชงกาแฟแคปซูล (Capsule Machine)
เป็นเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล โดยจะใช้กับกาแฟที่บดเป็นผงบรรจุอยู่ในแคปซูล ตัวเครื่องมีโหมดการทำงานที่หลากหลาย สะดวก ใช้งานง่าย รวดเร็ว และมีราคาไม่แพง สามารถทำเมนูเครื่องดื่มได้สารพัดหลากหลายแบบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและการชงกาแฟที่รวดเร็ว
- เครื่องชงกาแฟแบบมอคค่าพอท (Moka Pot Machine)
เครื่องชงกาแฟแบบมอคค่าพอท จะให้รสชาติกาแฟอย่างเข้มข้น มีการทำงานโดยแยกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนบนสำหรับใส่ผงกาแฟบด และส่วนล่างสำหรับใส่น้ำ ตัวเครื่องจะต้มน้ำให้เดือดเพื่อให้ไอน้ำลอยตัวขึ้นไปรวมกับส่วนของกากกาแฟ เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นออกมา
- เครื่องชงกาแฟแบบเพอร์โคเลเตอร์ (Percolator Machine)
เป็นเครื่องชงกาแฟ โดยใช้การต้มกาแฟในเหยือกก่อน ซึ่งเมล็ดกาแฟที่ใช้จะเป็นกาแฟทั่วไป โดยอาศัยหลักการคือ ให้น้ำร้อนผ่านกาแฟออกมา เครื่องชงกาแฟประเภทนี้มีราคาค่อนข้างสูง เพราะต้องทำจากวัสดุที่เป็นสแตนเลสอย่างดี เพื่อให้สามารถตั้งเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าได้ ใช้งานง่าย สะดวกกับการต้มกาแฟในปริมาณมากๆ เหมาะสำหรับชงดื่มกันเป็นหมู่คณะ
- เครื่องชงกาแฟแบบสูญญากาศ (Syphon Coffee Machine)
เครื่องชงกาแฟประเภทนี้มีวิธีการชงโดยการใช้แรงดันน้ำเป็นตัวทำให้ได้น้ำกาแฟที่มีความเข้มข้น กาต้มจะใช้ตะเกียงที่ติดตั้งเอาไว้ด้านนอกส่วนล่างสุด เมื่อน้ำเดือดได้ที่แล้ว ไอน้ำจะส่งตัวพุ่งขึ้นไปด้านบนเพื่อกระทบกับกากกาแฟและขังอยู่ภายใน เมื่อต้องการดื่มกาแฟให้ดับตะเกียงและเทผ่านตัวกรองอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นการชงที่ค่อนข้างมีความพิถีพิถัน เพื่อรักษารสชาติของกาแฟไว้ โดยจะให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นและกลมกล่อม เหมาะสำหรับกาแฟที่มีราคาแพง มีกลิ่น Character ในตัวค่อนข้างละเอียด
- เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ (Fully Automatic Coffee Machine)
เป็นเครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติที่มีการดัดแปลงเพื่อรวมเอาข้อดีของเครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซและเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลมารวมกัน โดยการใช้งานเครื่องประเภทนี้มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงเติมน้ำแล้วใส่เมล็ดกาแฟเข้าไป และกดปุ่มเมนูที่ต้องการ ก็จะได้กาแฟสดมาดื่มแล้ว ทำให้สะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้น แถมได้รสชาติกาแฟสดตามที่ต้องการและมีความเสถียรในรสชาติอีกด้วย เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติได้รับความนิยมใช้กันมากในองค์กร สำนักงาน และในออฟฟิศต่างๆ
วิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟสด
1.เลือกจากประเภทของเครื่องชงกาแฟสด
จากที่ได้กล่าวไปในเรื่องของประเภทของเครื่องชงกาแฟสด ในปัจจุบันมีการผลิตเครื่องชงกาแฟออกมาหลากหลายประเภท หากคุณต้องการเครื่องชงกาแฟที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะกับการดื่มกาแฟของคุณ คุณจำเป็นต้องศึกษาประเภทหรือชนิดของเครื่องชงกาแฟให้ดีก่อน เพราะเครื่องชงกาแฟแต่ละประเภทมีวิธีการชงและให้ผลลัพธ์ของรสชาติกาแฟที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของรสชาติความกลมกล่อม ความเข้มข้นและกลิ่นของกาแฟ รวมถึงเครื่องชงบางประเภทก็จะเหมาะสำหรับเมล็ดกาแฟที่มีราคาค่อนข้างสูง และเครื่องชงกาแฟบางประเภทก็ใช้กับเมล็ดกาแฟทั่วไปได้
2.เลือกเครื่องชงกาแฟสดจากค่าแรงดัน
การเลือกเครื่องชงกาแฟสดโดยคำนึงจากค่าแรงดันในการบดเมล็ดกาแฟ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีค่าแรงดันที่แตกต่างกันไปตามขนาดของตัวเครื่อง และความสามารถในระบบการสกัดกาแฟของเครื่องแต่ละรุ่น โดยที่ตามปกติแล้วเครื่องชงกาแฟรุ่นที่มีแรงดันสูงมากกว่าจะทำให้การสกัดกาแฟทำได้เร็วกว่า แต่ก็อาจไม่สามารถคงรสชาติของกาแฟไว้ได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น ควรมองหาเครื่องชงกาแฟรุ่นที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนค่าแรงดันได้อย่างหลากหลาย หรือเครื่องชงกาแฟที่มีค่าแรงดันอยู่ที่ 9 บาร์ขึ้นไป
3.ตรวจสอบกำลังไฟฟ้าของเครื่องชงกาแฟสด
เป็นการตรวจสอบกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในระหว่างการเปิดทำงานเครื่องชงกาแฟ แนะนำว่าก่อนคุณจะเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟมาใช้ให้คุณตรวจสอบค่ากำลังไฟฟ้าสูงสุดของตัวเครื่องด้วย เพราะกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในระหว่างการเปิดใช้งานเครื่องชงกาแฟในแต่ละรุ่นมีการจ่ายกำลังไฟที่ต่างกัน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายที่คุณจะต้องเสียไปสำหรับการเปิดใช้งานในแต่ละครั้ง ดังนั้น คุณควรมองหารุ่นที่ใช้กำลังไฟฟ้าอยู่ในระดับเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เพื่อช่วยให้คุ้มค่าต่อการใช้งานและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ของคุณได้
4.เลือกเครื่องชงกาแฟสดจากขนาดความจุของแทงค์น้ำ
การคำนึงถึงขนาดความจุของแทงค์น้ำจะช่วยให้คุณได้ขนาดแทงค์น้ำที่เหมาะกับการใช้งานในการชงกาแฟของคุณมากขึ้น เพราะถ้าหากคุณต้องชงกาแฟในปริมาณมากๆ การเลือกเครื่องชงกาแฟสดที่มีแทงค์น้ำขนาดความจุเยอะ จะช่วยให้คุณไม่ต้องเติมน้ำลงในตัวเครื่องบ่อยๆ แต่หากคุณใช้เครื่องชงเพื่อชงดื่มเองในปริมาณเพียงไม่กี่แก้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแทงค์น้ำความจุเยอะ เพื่อช่วยประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ดังนั้น สำหรับการชงกาแฟในสถานการณ์ต่างๆ ที่คุณจะต้องเปิดใช้งานในชีวิตประจำวัน คุณควรจะมองหารุ่นที่มีขนาดความจุของแทงค์น้ำที่เหมาะกับการใช้งานของคุณเอง
10 อันดับ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี 2024
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
7
|
8
|
9
|
10
|
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
De'Longhi เครื่องชงกาแฟสดเอสเพรสโซ่ | รุ่น EC 9155.MB
|
Hipresso เครื่องชงกาแฟสด Fully Automatic Coffee Machine
|
Gemilai เครื่องชงกาแฟสด | รุ่น CRM 3200 C
|
ETZEL เครื่องชงกาแฟสด | รุ่น SN6570
|
ETZEL เครื่องชงกาแฟสด | รุ่น SN685 Sleek & Slim
|
Duchess เครื่องชงกาแฟสด | รุ่น CM4200
|
SKG เครื่องชงกาแฟสด | รุ่น SK-1208
|
IWACHI เครื่องชงกาแฟสด Coffee Maker
|
Gmax เครื่องชงกาแฟสด | รุ่น CM-025
|
Worldtech Xpresso เครื่องชงกาแฟสด | รุ่น WT-CM8_SIL
|
|
ขนาด | 27.5x36.5x40 cm. | 36.5x28.3x46.3 cm. | 34.5x48x50 cm. | 28.5x31.5x33.5 cm. | 15x31x30 cm. | 18x25x30 cm. | 21x27x29.2 cm. | 20x26x29 cm. | 25x29x29.5 cm. | 21.5x26x37 cm. |
แรงดัน | 19 บาร์ | 19 บาร์ | 15 บาร์ | 20 บาร์ | 20 บาร์ | 15 บาร์ | 20 บาร์ | 15 บาร์ | 15 บาร์ | 5 บาร์ |
ความจุแทงค์น้ำ | 1.7 ลิตร | 1.8 ลิตร | 1.7 ลิตร | 2.7 ลิตร | 1.2 ลิตร | 1.5 ลิตร | 1.5 ลิตร | 1.5 ลิตร | 1.5 ลิตร | 0.24 ลิตร |
กำลังไฟฟ้า | 1,400w | 1,350w | 2,700w | 1,450w | 1,350w | 1,050w | 1,050w | 850w | 850w | 800w |
รับประกันสินค้า | 2 ปี | 1 ปี | 1 ปี | 1 ปี | 1 ปี | 1 ปี | 1 ปี | 6 เดือน | 1 ปี | 1 ปี |
ราคาเริ่มต้นที่ | 29,400 บาท | 23,300 บาท | 19,900 บาท | 11,989 บาท | 5,990 บาท | 3,120 บาท | 2,799 บาท | 2,189 บาท | 1,699 บาท | 969 บาท |
เช็คราคาล่าสุด |