- Smarthome เครื่องฟอกอากาศ กรองและบอกระดับ PM2.5 รุ่น AP-180
- Philips เครื่องฟอกอากาศ เหมะสำหรับห้องขนาด 44 ตร.ม. รุ่น AC0650
- Smartmi เครื่องฟอกอากาศ เซ็นเซอร์คู่ดักจับทั้ง PM2.5 / PM10 รุ่น P1
- Levoit เครื่องฟอกอากาศ กรองอากาศ กรองฝุ่น PM2.5 รุ่น Core 400S
- Conoco เครื่องฟอกอากาศ สำหรับรถยนต์ กรองฝุ่น PM2.5 รุ่น C7 PRO
- Xiaomi Mi เครื่องฟอกอากาศ เหมาะสำหรับกรองฝุ่น PM2.5 รุ่น 4 Lite
- Electrolux เครื่องฟอกอากาศ UltimateHome 500 รุ่น EP53-45SWA
- Imarflex เครื่องฟอกอากาศ Air Purifier มี มอก. รับรอง รุ่น F-C042R
- Worldtech เครื่องฟอกอากาศ Air Purifier มีมอก.รับรอง รุ่น WT-P40
- Philips เครื่องฟอกอากาศ กรองอากาศแบบอัตโนมัติ รุ่น AC0820/20
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) คือ เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นละออง และสารก่อภูมิแพ้ในอากาศในห้องต่างๆ ภายในบ้าน, สำนักงาน, โรงพยาบาล หรือหน่วยงานต่างๆ โดยทั่วไปจะใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการช่วยกรองละอองฝุ่น กลิ่น สารเคมี หรือสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ในอากาศ และผลิตอากาศบริสุทธิ์ เพื่อลดปริมาณเชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรีย รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ และในบทความนี้เราคัดสรร 10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ที่คุ้มค่าต่อราคา ทั้งยังสามารถกรองละอองฝุ่น รวมถึงมลพิษต่างๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพื่อผลิตอากาศบริสุทธิ์ให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น | จัดอันดับโดย pro4289
10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2024
Smarthome รุ่น AP-180
- ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติก ABS
- ตัวกรอง Hepa คุณภาพสูง + พร้อม Activated carbon
- สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM2.5 ได้
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย / ไรฝุ่น / ควันบุหรี่ / สารก่อภูมิแพ้
- มีโหมดการ sleep เพื่อป้องกันเสียงและแสงรบกวนการนอนหลับ
- ไส้กรองสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 3,000 ชม.
Philips Air Purifier รุ่น AC0650
- เครื่องฟอกอากาศ เหมาะสำหรับห้องขนาด 44 ตร.ม.
- กรองอนุภาคขนาดนาโนที่เล็กกว่า 0.003 ไมครอน
- กรองฝุ่นละออง PM2.5 และไวรัสได้มากถึง 99.97%
- สามารถกําจัดสารมลพิษในอากาศภายใน 17 นาที
- ใช้กำลังไฟฟ้าในการทํางานสูงสุดที่ 12 วัตต์
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 170 ลบ.ม./ชม.
- ระบบกรอง 2 ชั้นที่ใช้เทคโนโลยี HEPA ของ NanoProtect
- โหมดความเร็วแบบกําหนดเอง 3 ระดับ: ปานกลาง, เทอร์โบ, นอนหลับ
Smartmi Air Purifier รุ่น P1
- เครื่องฟอกอากาศ เซ็นเซอร์คู่ดักจับทั้ง PM2.5 / PM10
- สามารถกรองละอองเกสร ควัน และขนสัตว์ได้
- มีสายหิ้ว สะดวกในการเคลื่อนย้ายไปใช้งานในที่ต่างๆ
- เซ็นเซอร์คุณภาพอากาศขั้นสูง พร้อมแอพอัจฉริยะ
- การกรองแบบ 4in1 เหมาะสำหรับห้องขนาด 320 ตารางฟุต
- ความสามารถในการกรองสูงสุด (CADR) 250 ลบ.ม./ชม.
- มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LED แสดงค่าละอองเกสร
Levoit รุ่น Core 400S Air Purifier
- ดักจับอนุภาคในอากาศ 99.97% ขนาด 0.3 ไมครอน
- ดักจับอนุภาคในอากาศขนาด 0.1 ไมครอน ได้ถึง 99.9%
- เทคโนโลยี HEPASmart™ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรอง
- ดักจับแบคทีเรียและเชื้อรา 99.99% และ 99.9% ของไวรัส
- เทคโนโลยี VortexAir™ เพิ่มการไหลเวียนอากาศภายในอาคาร
- เทคโนโลยี AirSight™ Plus สแกนอากาศโดยรอบ
- หน้าจอแสดงผล PM2.5 แสดงจำนวนอนุภาคในอากาศ
- ARC Formula™ ช่วยต่อต้านกลิ่นในครัวเรือนและกลิ่นสัตว์เลี้ยง
- เทคโนโลยี QuietKEAP ™ ช่วยรักษาระดับเสียงให้ต่ำถึง 24dB
- สามารถควบคุมด้วยเสียงผ่านการเชื่อมต่อกับ Google Assistant™
Conoco เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น C7 PRO
- เครื่องฟอกอากาศ สำหรับกรองอากาศในรถยนต์
- กรองฝุ่นละออง ขนาดใหญ่ถึงขนาดเล็ก PM2.5
- ปล่อยไอออน 3 ล้านไอออนต่อวินาที
- มีแสง UV สำหรับการฆ่าเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้กำลังไฟโดยประมาณอยู่ที่ 2.1A / 12V ขึ้นไป
- กำจัดกลิ่น ฝุ่น PM2.5 ควันบุหรี่ ควันรถ สารพิษ และเชื้อโรคได้
Xiaomi Mi Air Purifier รุ่น 4 Lite
- สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้มากถึง 6330 ลิตร / นาที
- ขจัดมลพิษในอากาศ CADR 380 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
- กรองฝุ่นได้รอบทิศทาง 360 องศา อย่างมีประสิทธิภาพ
- กรองสารฟอร์มาลดีไฮด์ได้สูงสุดถึง 120 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
- ใช้กับที่มีขนาดตั้งแต่ 26 ตารางเมตร ไปจนถึง 45 ตารางเมตร
- ไส้กรองเคลือบสารป้องกันและกำจัดแบคทีเรีย ได้ถึง 99.99%
- เสียงในการเงียบเพียง 35.8dB และปิดการทำงานของไฟหน้าจอ
- สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Mi Home เพื่อดูสถานะการใช้งาน
Electrolux รุ่น EP53-45SWA
- กรอง 4 ขั้นตอน Pre, Anti-bacterial HEPA, HEPA13, Activated Carbon
- ตรวจจับฝุ่นละออง PM1, 2.5 และ 10 กรองละเอียดได้ถึง 0.3 ไมครอน
- เลือกปรับได้ 3 โหมด ได้แก่ Smart Mode, Sleep Mode และ Manual
- สามารถปรับความแรงของพัดลมได้ถึง 5 ระดับ
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (ค่า CADR) 419 ลบ.ม./ชม.
- ใช้งานผ่านระบบสัมผัส พร้อมแสดงผลแบบ LED และ AQI Index
- มีไฟแจ้งเตือนเปลี่ยนแผ่นกรอง และการกรองแบบ 360 องศา
- เหมาะสำหรับใช้กรองอากาศในห้องที่มีขนาด 54 ตารางเมตร
Imarflex รุ่น F-C042R
- ดีไซน์ทันสมัย ออกแบบตามหลักการไหลเวียนของอากาศ
- แผ่นกรอง HEPA ดักจับฝุ่นละออง มลพิษ เชื้อโรค ขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน
- แผ่นกรอง Carbon กรองดักจับควัน ก๊าซ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ
- มีระบบ ION ช่วยปล่อยประจุไม่ให้ฝุ่นเกิดการฟุ้งกระจายในอากาศ
- เหมาะสำหรับใช้กรองอากาศกับพื้นที่ห้องขนาด 30-50 ตร.ม.
- สามารถปรับตั้งเวลาในการทำงานได้ 1 ชม. / 2 ชม. / 4 ชม. / 8 ชม.
Worldtech Air Purifier รุ่น WT-P40
- เครื่องฟอกอากาศ สำหรับห้องขนาด 40 ตารางเมตร
- แรงดันไฟฟ้า 220V | 50Hz กำลังไฟฟ้า 40W
- หน้าจอ LED ระบบสัมผัส มีค่าสถานะอากาศบอก
- แผ่นกรอง HEPA H11 สำหรับการกรองแบบ 4 ชั้น
- ดักจับอนุภาคเล็ก 0.3 ไมครอน ได้อย่างน้อย 99.97%
- กรองละอองเกสร ควันบุหรี่ กลิ่น PM 2.5 แบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และสารอันตรายอื่นๆ ในอากาศได้
PHILIPS Air Purifier รุ่น AC0820/20
- ประสิทธิภาพในการกำจัดอนุภาคขนาดนาโนเล็กกว่า 0.003 ไมครอน
- สามารถกรองฝุ่นได้เล็กกว่าขนาด PM2.5 ถึง 800 เท่า ได้ถึง 99.5%
- มีประสิทธิภาพในการกรอง Particle CADR: 190 ลบ.ม./ชม.
- มาพร้อมระบบการทำงานอัจฉริยะ กรองอากาศแบบอัตโนมัติ
- ตรวจวัดคุณภาพ และทำงานทันที เมื่อพบการเปลี่ยนแปลงในอากาศ
- เหมาะสำหรับใช้กรองอากาศกับพื้นที่ห้องที่มีขนาด 16-49 ตร.ม.
- กรองอากาศด้วยระบบหมุนวนเวียนอากาศแบบ 3 มิติ
- ใช้เวลาฟอกอากาศในพื้นที่ 20 ตารางเมตรน้อยกว่า 16 นาที
- เสียงการทำงานเบาเพียง 35-61 dB(A) เหมาะกับใช้ในห้องนอน
เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อดัง ยอดนิยม
เครื่องฟอกอากาศ ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน
วิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศ
การเลือกเครื่องฟอกอากาศขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมในการใช้งานและสภาพแวดล้อม และขนาดของพื้นที่ที่จะนำไปใช้งาน ดังนั้นคุณจึงควรพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ขนาดห้องหรือพื้นที่ใช้งาน : คุณควรคำนึงถึงขนาดของพื้นที่ห้อง หากพื้นที่ห้องกว้างเกินไป ก็อาจไม่เหมาะกับรุ่นที่คุณกำลังจะเลือกซื้อมาใช้งานได้ ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการกรองอากาศ ดังนั้น แนะนำให้คุณเลือกที่เหมาะสมกับขนาดห้องของคุณเอง เพื่อจะได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามคุณสมบัติที่ได้กล่าวไว้ของเครื่องในแต่ละรุ่น
2. ประสิทธิภาพในการกรอง : เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในเรื่องประสิทธิภาพ ว่าสามารถกรองฝุ่น รวมทั้งมลพิษต่างๆ ได้เร็ว มีคุณภาพมากแค่ไหน และมีความสามารถในการกรองสูง เช่น สามารถกรองฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็ก, ฝุ่น PM2.5, สารที่ก่อให้เกิดการแพ้, เชื้อโรค, แบคทีเรีย, สารเคมี และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ นั่นเอง
3. ประเภทของเครื่องฟอกอากาศ :
- HEPA Filter ใช้เทคโนโลยี HEPA (High Efficiency Particulate Air) ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้มากถึง 99.97% ซึ่งเป็นอนุภาคขนาดไม่เกิน 0.3 ไมครอน มักใช้ในห้องพักหรือสำนักงาน
- Carbon Filter ใช้ถ่านกัมมันต์เป็นส่วนประกอบหลัก ทำหน้าที่กำจัดสิ่งปนเปื้อนในอากาศ เช่น กลิ่น, สารเคมี และมลพิษอื่นๆ ในอากาศ
- UV-C Sterilization ใช้แสง UV-C เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียในอากาศ มักใช้ในห้องโรงพยาบาลหรือห้องทำงาน
- Lonic Air Purifiers ที่ใช้เทคโนโลยีการปล่อยไอออนเข้าสู่อากาศ เพื่อช่วยกำจัดสารปนเปื้อนและกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศ
- Ozone Generators ใช้การสร้างโอโซนเข้าสู่อากาศ เพื่อกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรีย แต่การใช้งานจะต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากโอโซนเป็นสารที่มีความอันตรายสูง
คำถามที่พบบ่อย
ทำงานโดยดึงอากาศภายนอกผ่านตัวกรองที่มีความละเอียดสูง เช่น กรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) หรือกรองคาร์บอนแอ็กทีฟ (Activated Carbon) เพื่อตรวจจับและกำจัดสารตกค้าง เช่น ฝุ่นละออง เชื้อโรค กลิ่น และสารพิษอื่นๆ จากอากาศที่ผ่านเข้ามา จากนั้นจะเปลี่ยนอากาศที่ถูกตรวจจับและกรองแล้วให้กลับออกมาเป็นอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดมากยิ่งขึ้น
มีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยลดการระเหยของสารตกค้างที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ฝุ่นละออง กลิ่น และสารพิษ ช่วยลดอาการภูมิแพ้และหวัด ช่วยบรรเทาอาการของคนที่มีโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้ หรือหอบหืด และช่วยเพิ่มความสะอาดและความสดชื่นในอากาศที่รอบๆ ตัวเรา
มีหลายขนาดและหลายรุ่น ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในห้องใหญ่และห้องเล็ก การเลือกขนาดของเครื่องฟอกอากาศควรพิจารณาจากขนาดของห้องและอัตราการกรองอากาศของเครื่อง หากต้องการใช้ในห้องใหญ่ ควรเลือกเครื่องที่มีความสามารถในการกรองอากาศสูงพอและเครื่องที่มีพื้นที่การควบคุมอากาศที่แตกต่างกัน
ต้องทำการเปลี่ยนตามความเหมาะสมและความต้องการของผู้ใช้งาน ส่วนใหญ่แล้ว แนะนำให้ทำการเปลี่ยนตัวกรองทุก 6-12 เดือน หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต แต่อาจมีความแตกต่างกันไปตามรุ่นและประเภทของเครื่องฟอกอากาศ
สามารถใช้ได้ในสถานที่ปิดตัวได้ แต่ควรคำนึงถึงขนาดของห้องและอัตราการกรองอากาศของเครื่อง เพราะสารตกค้างที่ต้องการกรองอากาศมีอยู่มากน้อยเพียงใด หากสถานที่ปิดมีขนาดใหญ่ ควรเลือกเครื่องที่มีความสามารถในการกรองอากาศสูงและเครื่องที่สามารถควบคุมอากาศภายในห้องได้ให้เหมาะสม