- Eucerin Sun Dry Touch Oil Control Face SPF50+ PA++++
- Jungsaemmool Masterclass Ampoule Sun
- La Roche-Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH SPF 50+
- L’Oreal Paris UV Defender Matt & Fresh SPF 50+ PA++++
- Dr.Pong Hyaluronic Ultra Light Sunscreen with Aquatide SPF50 PA+++
- MizuMi UV Water Defense SPF50+ PA++++
- Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
- SPECTRABAN Ultra Protection SPF 50+ PA+++
- Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture UV Protection Sunscreen Lotion SPF50+ PA++++
- CUTE PRESS UV Expert Protection Tone Up Sunscreen SPF 50+ PA++
เมื่อผิวหน้าต้องเจอกับแสงแดดที่ร้อน โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานในที่โล่งแจ้ง หรือต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆ แม้ว่าบางคนจะโดนแดดไม่นานนักก็ตาม แต่ก็สามารถทำให้ภูมิต้านทานของเซลล์ผิวลดลงได้ และอาจสะสมจนก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน นอกจากนี้แสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาต่อสภาพผิว เช่น การเกิดฝ้า กระ รอยเหี่ยวย่น รอยตีนกาก่อนวัย ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำและหยาบกร้านลงได้
เนื่องจากปัญหาเหล่านี้ ทำให้หลายแบรนด์ดังของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำมากมายได้มีการผลิตครีมกันแดดทาหน้า เพื่อแก้ปัญหาของสภาพผิวเมื่อต้องเจอกับแสงแดดและป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวหน้าถูกแสงแดดทำร้าย ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติในการปกป้องและบำรุงรักษาผิวที่ต่างกัน เราจึงอยากแนะนำ 10 อันดับ ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าและช่วยแก้ปัญหาสภาพผิว พร้อมทั้งยังช่วยปกป้องผิวหน้าของคุณจากแสงแดดในทุกสภาพอากาศได้อย่างตรงจุดมากที่สุด | จัดอันดับโดย pro4289.com
ความรู้เกี่ยวกับรังสี
ขอกล่าวก่อนว่ารังสีที่มีผลต่อสภาพผิวและเป็นอันตรายต่อเซลล์ผิว ซึ่งอาจก่อให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้คือ รังสี UVB และ รังสี UVA โดยที่รังสี UVB จะมีช่วงความยาวคลื่น 280 – 320 นาโนเมตร รังสีนี้จะสามารถเข้าไปทำปฏิกิริยากับ DNA ในเซลล์โดยตรง จนทำให้ก่อเกิดเป็นสาร Cyclobutane pyrimidine dimmers และ Thymine glygols ที่เข้าไปเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็งได้ ส่วนรังสี UVA ในช่วงความยาวคลื่น 320 – 400 นาโนเมตร จะมีผลต่อผิวหนังได้น้อยกว่ารังสี UVB แต่จะมีส่วนที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน หากผิวของเราสัมผัสหรือได้รับการสะสมเป็นเวลานานๆ จะทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระขึ้นในเนื้อเยื่อ ซึ่งต่อมาจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็งด้วยการเหนี่ยวนำให้มีการเปลี่ยนแปลงของ DNA ในระดับเซลล์
ชนิดของรังสี มีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่
- รังสี UVC
รังสี UVC มีช่วงความยาวคลื่น 100 – 280 นาโนเมตร เป็นรังสีที่มีพลังงานสูงสุด แต่ส่วนมากจะถูกดูดซับไว้ด้วยโอโซนในชั้นบรรยากาศของโลก
- รังสี UVB
รังสี UVB มีช่วงความยาวคลื่น 280 – 320 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีพลังงานรองลงมาจากรังสี UVC มีผลทำให้ผิวหนังเกิดอาการเป็นผื่นแดง แสบร้อน และผิวหนังอาจเกิดเป็นรอยไหม้ โดยเฉพาะกับผู้แพ้แสงแดดง่ายหรือต้องตากแดดเป็นเวลานานๆ
- รังสี UVA
รังสี UVA มีช่วงความยาวคลื่น 320 – 400 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีพลังงานต่ำที่สุด ซึ่งเมื่อได้รับรังสีชนิดนี้จะมีผลต่อสภาพของผิวหนัง เช่น ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่น มีริ้วรอยก่อนวัย หรือทำให้ผิวดูหมองคล้ำ มีฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ เกิดขึ้นตามผิวหนังได้
มารู้จักกับค่า SPF และ PA ว่าคืออะไร
- ค่า SPF หรือ ค่าประสิทธิภาพของสารในการป้องกันแสงแดด
SPF (Sun Protection Factor) เป็นค่าที่บอกถึงการปกป้องผิวจากรังสี UVB ที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวเกิดอาการเป็นผื่นแดง แสบร้อน และผิวหนังเป็นรอยไหม้ โดยส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับค่า SPF 15 , SPF 30 หรือค่า SPF ที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง SPF 150 ยกตัวอย่างเช่น
ในกรณีที่เราต้องออกไปยืนกลางแดด โดยไม่ได้ทาครีมกันแดดใดๆ เลย เป็นเวลาประมาณ 20 นาที ผิวของเราก็จะเริ่มมีอาการแสบร้อนหรือบางคนอาจมีผื่นแดงเกิดขึ้นตามผิว แต่ถ้าเราทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 บนผิวหน้า ผิวหน้าของเราก็จะสามารถทนต่อแสงแดดได้ดี
- PA หรือ ค่าวัดประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี
PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA เป็นหน่วยที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งค่า PA ที่สูงสุดคือ PA++++
ประเภทของครีมกันแดดทาหน้า
แสงแดดที่แรงขึ้นในทุกๆ วัน ก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถปกป้องผิวหน้าอันบอบบางได้ด้วยการใช้ครีมกันแดดทาหน้า โดยครีมกันแดดทาหน้าจะแบ่งประเภทตามคุณสมบัติออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
- ครีมกันแดดทาหน้าดูดซับรังสี (Chemical Sunscreen)
ครีมกันแดดประเภทดูดซับรังสีจะประกอบไปด้วยสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับรังสีไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้รังสีเหล่านี้พุ่งทะลุมาสัมผัสกับผิวของเรา และจะปล่อยรังสีในช่วงคลื่นอื่นออกมาแทนหลังการดูดซับไว้ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว โดยสารที่ใช้ผสมจะมีคุณสมบัติในการดูดซับรังสี ได้แก่ Oxybenzone, PABA, Salicylates, Cinnamates เป็นต้น
ข้อดีของครีมกันแดดทาหน้าดูดซับรังสีคือ ส่วนใหญ่ครีมจะไม่มีสีหรืออาจมีสีอ่อนๆ มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวและมีราคาถูก ส่วนข้อเสียคืออาจต้องทาซ้ำทุกๆ 1 – 2 ชั่วโมง เมื่อต้องตากแดดเป็นเวลานานๆ เพื่อเติมการดูดซับรังสีได้มากขึ้น และไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้สารเคมีได้
- ครีมกันแดดทาหน้าสะท้อนรังสี (physical blocker)
เป็นครีมที่มีส่วนผสมหลักของ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide ส่วนมากจะมีเนื้อครีมเป็นสีขาว และมีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสี UV ได้เกือบทั้งหมด โดยจะทำหน้าที่สะท้อนและกระจายรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง ซึ่งหลังการทาครีมประเภทนี้จะมีเนื้อครีมบางส่วนถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงทำให้ครีมกันแดดประเภทนี้ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย
ข้อดีของครีมกันแดดทาหน้าสะท้อนรังสีคือ เป็นครีมที่ไม่สลายตัวง่ายเมื่อต้องสัมผัสกับแสงแดด จึงไม่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ และไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
- ครีมกันแดดทาหน้าแบบผสม (Chemical – Physical Sunscreen)
ครีมกันแดดประเภทนี้จะมีส่วนผสมของสารที่มีคุณสมบัติในการดูดซับและสะท้อนรังสีเข้าไว้ด้วยกันได้ อีกทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด พร้อมช่วยลดการเกิดความระคายเคืองของผิวแพ้ง่ายได้ดี ซึ่งเนื้อครีมจะเป็นสีขาว และครีมกันแดดแบบผสมนี้ได้รวมข้อดีต่างๆ และลดข้อด้อยของครีมกันแดดประเภทอื่นๆ ทำให้ครีมกันแดดแบบผสมเป็นที่นิยมใช้กันมากและยังหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย
วิธีเลือกซื้อครีมกันแดดทาหน้า
การเลือกซื้อครีมกันแดดทาหน้า เพื่อช่วยในการป้องกันแสงแดดและลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวหน้า เมื่อต้องเจอกับแสงแดด โดยมีวิธีในการเลือกซื้อครีมกันแดดดังนี้
- เลือกครีมกันแดดทาหน้าที่มีค่า SPF และค่า PA
เป็นคุณสมบัติที่ต้องมีในครีมกันแดด โดยค่า SPF จะช่วยบอกระดับการป้องกันผิวจากรังสี UVB ที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวเกิดเป็นผื่นแดง แสบร้อน หรือเป็นรอยไหม้ ซึ่งครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง จะสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้มาก โดยสามารถวัดระดับค่า SPF ได้ดังนี้
- ค่า SPF 15 จะสามารถกรองรังสี UVB ได้ร้อยละ 93
- ค่า SPF 30 จะสามารถกรองรังสี UVB ได้ร้อยละ 97
- ค่า SPF 50 จะสามารถกรองรังสี UVB ได้ร้อยละ 98
ส่วนครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่า 15 ยังสามารถป้องกันผิวจากรอยไหม้ได้ แต่จะไม่ป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนัง
ส่วนค่า PA จะใช้วัดประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA โดยค่า PA ที่สูงสุดคือ PA++++ ซึ่งค่า PA จะช่วยในการป้องกันปัญหาของผิวที่เกิดจากการได้รับรังสี UVA เช่น ผิวหน้าเกิดรอยเหี่ยวย่น มีริ้วรอยก่อนวัย หรือผิวแลดูหมองคล้ำ เกิดเป็นฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ นั่นเอง
- เลือกครีมกันแดดทาหน้าตามสภาพผิวหน้า
ก่อนซื้อครีมกันแดดทาหน้า คุณต้องเช็คสภาพผิวหน้าของตนเองก่อนว่ามีสภาพผิวแบบไหน โดยเฉพาะกับผู้ที่มีสภาพผิวแพ้ง่าย จำเป็นต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ ซึ่งถ้าคุณรู้สภาพของผิวหน้า จะเป็นผลดีต่อการเลือกใช้ครีมกันแดดได้มากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถดูครีมที่เหมาะกับสภาพผิวได้ที่รายละเอียดและคุณสมบัติบนฉลากบรรจุภัณฑ์ หรือบางยี่ห้อก็จะมีติดอยู่ที่ตัวภาชนะบรรจุครีมเลย การเลือกใช้ครีมกันแดดทาหน้าตามสภาพผิวจะช่วยทำให้ครีมมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีตามคุณสมบัติอย่างมีคุณภาพได้มากที่สุด
- เลือกครีมกันแดดทาหน้าที่กันน้ำได้
เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องทำงานในที่โล่งแจ้ง หรือผู้ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะกับคนที่เหงื่อออกง่าย หรือหากต้องไปเล่นน้ำอย่างน้ำทะเลและสระว่ายน้ำ ครีมกันแดดชนิดนี้นอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว ยังสามารถกันน้ำได้ด้วย ซึ่งผู้ใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำ ควรทาซ้ำบ่อยๆ อย่างน้อยทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความแรงของแสงแดด และประสิทธิภาพของครีมกันแดดที่เลือกใช้ด้วย
แนะนำการเลือกใช้ครีมกันแดดทาหน้า คุณควรเลี่ยงครีมที่มีสารผสมของกรด Para-Aminobenzoic Acid, กรด PABA หรือสารผสมอย่าง Benzephenones เช่น Dioxybenzone, Oxybenzone, Sulisobenzone รวมทั้งครีมกันแดดที่ผสมแอลกอฮอล์ น้ำหอม และวัตถุกันเสีย เพื่อเลี่ยงต่อผลเสียที่อาจมีผลกระทบต่อผิวหน้าของคุณ
10 อันดับ ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี 2024
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
7
|
8
|
9
|
10
|
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Eucerin Sun Dry Touch Oil Control Face SPF50+ PA++++
|
Jungsaemmool Masterclass Ampoule Sun
|
La Roche-Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH SPF 50+
|
L'Oreal Paris UV Defender Matt & Fresh SPF 50+ PA++++
|
Dr.Pong Hyaluronic Ultra Light Sunscreen with Aquatide SPF50 PA+++
|
MizuMi UV Water Defense SPF50+ PA++++
|
Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
|
SPECTRABAN Ultra Protection SPF 50+ PA+++
|
Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture UV Protection Sunscreen Lotion SPF50+
PA++++
|
CUTE PRESS UV Expert Protection Tone Up Sunscreen SPF 50+ PA++
|
|
ปริมาณ | 50 ml. | 50 ml. | 50 ml. | 50 ml. | 25 ml. | 40 g. | 50 g. | 20 ml. | 50 ml. | 30 g. |
ค่า SPF | SPF50+ | SPF50+ | SPF50+ | SPF50+ | SPF50 | SPF50+ | SPF50+ | SPF50+ | SPF50+ | SPF50+ |
ค่า PA | PA++++ | PA++++ | PA++++ | PA+++ | PA++++ | PA++++ | PA+++ | PA++++ | PA++ | |
กันน้ำได้ | ||||||||||
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ||||||||||
ปราศจากน้ำหอม | ||||||||||
ผ่านการทดสอบ | ||||||||||
เหมาะสำหรับ | ผิวเป็นสิว, ผิวแพ้ง่าย | ทุกสภาพผิว | ผิวเป็นสิว, ผิวมัน | ผิวผสม, ผิวมัน | ผิวเป็นสิว, ผิวแห้งง่าย, ผิวแพ้ง่าย | ทุกสภาพผิว | ทุกสภาพผิว | ทุกสภาพผิว | ทุกสภาพผิว | ทุกสภาพผิว |
ราคาเริ่มต้นที่ | 1,350 บาท | 1,215 บาท | 1,040 บาท | 539 บาท | 299 บาท | 489 บาท | 294 บาท | 215 บาท | 209 บาท | 204 บาท |
เช็คราคาล่าสุด |
1. Eucerin Sun Dry Touch Oil Control Face SPF50+ PA++++
- ครีมกันแดดทาหน้า ลดปัญหาสิว
- เนื้อเจลครีมสีเบจ บางเบา ไม่มันระหว่างวัน
- ไม่มีสารตกค้าง ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
- ช่วยปกปิดรอยสิว ให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ
- ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้อุดตันและไม่ก่อให้เกิดสิว
- ครีมกันแดดสูตรสำหรับผิวเป็นสิวง่าย
2. Jungsaemmool Masterclass Ampoule Sun
- ครีมเนื้อสัมผัสซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบ
- พร้อมพลังในการบำรุงผิวอย่างเหนือระดับ
- ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใส
- ผิวแลดูอิ่มน้ำ ผิวสวยสุขภาพดีตลอดวัน
- มาพร้อมกลิ่นหอมซิตรัสธรรมชาติ
- ปราศจากส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
3. La Roche-Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH SPF 50+
- ครีมกันแดดคุมมัน กันน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV อินฟราเรด และมลภาวะ
- ปกป้องผิวจากการเกิดฝ้า จุดด่างดำจากแสงแดด
- เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว
- ปราศจากส่วนผสมของพาราเบนและน้ำหอม
- สำหรับผิวมัน เป็นสิวง่าย ผิวบอบบางระคายเคืองง่าย
- ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวพรรณ
4. L’Oreal Paris UV Defender Matt & Fresh SPF 50+ PA++++
- ครีมป้องกันแสงแดด รังสียูวี สำหรับผิวหน้า
- สูตรบางเบา ซึมซาบเร็ว ผิวดูไม่มันวาว
- ปกป้องผิวจากรังสียูวี และริ้วรอยแห่งวัยจากแสงแดด
- ป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ลดความหมองคล้ำของผิว
- ผ่านการทดสอบแม้ภายใต้อุณหภูมิสูง 45 องศา และความชื้น 80%
- มีคุณสมบัติลดการยึดเกาะของฝุ่นและมลภาวะ รวมถึง PM 2.5
- ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส มันน้อยลง สีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น
5. Dr.Pong Hyaluronic Ultra Light Sunscreen with Aquatide SPF50 PA+++
- ครีมกันแดด สำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย
- เนื้อสัมผัสเบาบางพิเศษ ทาง่าย ไม่เหนอะหนะ
- ป้องกัน Broad spectrum ทั้ง UVA และ UVB
- ผ่านการทดสอบ SPF มาตรฐานต่างประเทศ
- ค่า SPF สูง ป้องกันยาวนานถึงแม้จะผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมง
6. MizuMi UV Water Defense SPF50+ PA++++
- ครีมกันแดด สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- สูตรกันน้ำ กันเหงื่อ ปราศจากสารกันแดดแบบเคมี 100%
- ไม่มีน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์
- สามารถออกแดดได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้แห้ง
- เหมาะกับคนมีเหงื่อมาก เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือลงว่ายน้ำ
- สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิว และผิวเด็ก
7. Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
- ครีมกันแดด สูตรกันน้ำ กันเหงื่อ ติดทน
- ปกป้องแม้ร่องผิวลึกถึงชั้นคอลลาเจน ไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย
- ป้องกันผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ
- เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ปกป้องยาวนาน
- ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน
- ผ่านการทดสอบไม่ก่อให้เกิดสิวและไม่การระคายเคืองต่อผิว
8. SPECTRABAN Ultra Protection SPF 50+ PA+++
- ครีมกันแดด เหมาะสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- ช่วยปกป้องผิวแบบ Double Protection
- ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
- สูตรกันน้ำ กันเหงื่อได้อย่างยาวนาน
- ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอมและสารแต่งสี
9. Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture UV Protection Sunscreen Lotion SPF50+ PA++++
- ครีมกันแดด สำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- สูตรกันน้ำ กันเหงื่อ ปกป้องได้ยาวนาน
- ครีมกันแดดเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ทิ้งคราบ
- ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ระดับสูงสุด
- ปราศจากสาร Oxybenzone & Paraben
- ไม่มี Oil เเละ Alcohol ที่เป็นสาเหตุของการอุดตันของสิว
10. CUTE PRESS UV Expert Protection Tone Up Sunscreen SPF 50+ PA++
- ครีมกันแดดโทนอัพปรับผิว กลมกลืนเข้ากับทุกสีผิว
- เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย เนื้อซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ช่วยปรับผิวหมองคล้ำให้ดูกระจ่างใส ไบรท์ขึ้นทันที
- ควบคุมความมัน กันน้ำ กันเหงื่อ นานถึง 12 ชั่วโมง
- ปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วย SPF 50+ และ PA++
- ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว กันแดดได้ดี