- STANLEY รุ่น STPT600-B1 | 600 วัตต์
- PUMPKIN รุ่น J-H2002 | 2,000 วัตต์
- BLACK&DECKER รุ่น KX1800-B1 | 1,800 วัตต์
- Mailtank รุ่น SH28 | 2,000 วัตต์
- BOSCH รุ่น GBL620 | 620 วัตต์
- ZINSANO รุ่น BL600PT2 | 600 วัตต์
- DEWALT รุ่น DWB6800-B1 | 800 วัตต์
- INGCO รุ่น AB8008 | 800 วัตต์
- MAKITA รุ่น HG-6003 | 1,800 วัตต์
- POLO รุ่น QG-001 | 2,000 วัตต์
เครื่องเป่าลม (Air Blower) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างการไหลของอากาศ โดยใช้พลังงานเพื่อให้ลมถูกพัดเข้าหรือพัดออกจากเครื่อง โดยมักนิยมใช้ในหลายงานทั้งในสถานที่อุตสาหกรรมและที่บ้าน มักมีการออกแบบและขนาดที่แตกต่างกันตามการใช้งานที่ต้องการ เช่น:
1.เครื่องเป่าลมในงานอุตสาหกรรม: มักมีขนาดใหญ่และมีความสามารถในการสร้างลมแรง โดยสามารถใช้ในการหลายงาน เช่น ในการระบายอากาศมลพิษ, การเตรียมพื้นที่ที่มีฝุ่นให้สะอาด, หรือในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ต้องการการผลิตที่มีความสะอาดและปราศจากฝุ่น
2.เครื่องเป่าลมในงานก่อสร้าง: มีขนาดเล็กถึงกลางมักถูกใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเป่าฝุ่นและสิ่งสกปรกอื่น ๆ หรือในการทำความสะอาดพื้นหรือผนังก่อนการทาสีหรือปูน
3.เครื่องเป่าลมทำความสะอาด: มีขนาดเล็กมักถูกใช้ในการทำความสะอาดเครื่องจักร, รถยนต์, หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีความผิวและชิ้นส่วนที่ต้องการเป่าด้วยลมแรงๆ เพื่อเอาสิ่งสกปรกออกไป
4.เครื่องเป่าลมอุปกรณ์กีฬา: อย่างเช่น ลูกบาสเก็ตบอล, ลูกฟุตบอล, และลูกวอลเลย์บอล เพื่อให้อุปกรณ์แข็งแรงและมีประสิทธิภาพในการเล่น
การเลือกใช้เครื่องเป่าลมที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับงานและความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของคุณในแต่ละกรณี โดยมีหลายรูปแบบและขนาดให้เลือกตามความต้องการของคุณได้ | จัดอันดับโดยเว็บ pro4289.com
10 อันดับ เครื่องเป่าลม ยี่ห้อไหนดี 2024
STANLEY รุ่น STPT600-B1 | 600 วัตต์
- กำลังไฟฟ้า 600 วัตต์
- ความเร็วมอเตอร์สูงสุด 0-16,000 รอบต่อนาที
- ปริมาณอากาศ 3.5 ลบ.ม/นาที
- ความยาวสายไฟ 3 เมตร
- น้ำหนัก 1.7 กก.
- วิธีใช้ : สำหรับใช้ในงานเป่าทำความสะอาดฝุ่นละออง สิ่งสกปรก หรือใช้เป่าให้แห้ง / ถอดปลั้กทุกครั้งหลังการใช้งาน
PUMPKIN รุ่น J-H2002 | 2,000 วัตต์
- ปรับอุณหภูมิความร้อนได้ 3 ระดับ พร้อมไฟ LED แสดงระดับอุณหภูมิ
- อุณหภมิสูงสุด : 50-600 องศาเซลเซียส
- ที่ล้อปรับอุณหภูมิ มีหมายเลขระบุ 1-9 สำหรับเทียบระดับอุณหภูมิที่ต้องการ (ติดอยู่ด้านข้างตัวเครื่อง)
- มีวงจรควบคุมระดับอุณหภูมิให้คงที่ สำหรับการใช้งานต่อเนื่อง โดยไม่ทำให้เครื่อง Over Heat
- เหมาะกับงานลอกสี บัดกรีท่อ PVC ให้หดตัวและโค้งงอ หรืองานทั่วไปที่ต้องการเป่าชิ้นงานให้ละลาย
BLACK&DECKER รุ่น KX1800-B1 | 1,800 วัตต์
- กำลังไฟ 1800W.
- สามารถปรับระดับความร้อนได้ 400 -500 องศา
- อัตราการไหลของลม 550-750 L/min
- สายไฟยาว 2เมตร
- ใช้ลอกสี ดัดงอพลาสติก ซ่อมพลาสติก ติดสต๊กเกอร์ และ อื่นๆ
- ด้ามจับกระชับเสริมยางกันลื่น ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา
- จับปืนเป็นอย่างดีสมดุลสำหรับการใช้งานในช่วงระยะเวลานาน
- ขาตั้งในตัวสำหรับเย็นลงได้ง่าย
- มือทั้งสองข้างสามารถเป็นอิสระสำหรับการบัดกรีหรือดัดการดำเนินงาน
- ล็อคสวิทช์สำหรับความสะดวกสบายในการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี
Mailtank รุ่น SH28 | 2,000 วัตต์
- แรงดัน 2000 วัตต์
- กำลังไฟฟ้า 220โวลต์
- ปรับความร้อนได้ 2 ระดับ 350 องศา และ 550 องศา
- ความถี่ 50-60hz
- มีน้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก
BOSCH รุ่น GBL620 | 620 วัตต์
- กำลังสูงถึง 620 วัตต์
- สามารถทำรอบหมุนได้ถึง 16000 รอบ/นาที
- รองรับการใช้งานได้หลากหลายประเภท
- น้ำหนักเบาเพียง 1.7 กิโลกรัม สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย
- มาพร้อมหัวดูดฝุ่นก้านยาว 1 อัน
- มีความคุ้มค่าสูงเมื่อเทียบสัดส่วนราคา ต่อ กำลัง และ น้ำหนักที่ได้รับ
- เหมาะแก่การใช้งาน ในงาน เหล็ก งานไม้ งานก่อสร้าง และ งานคอนกรีต
ZINSANO รุ่น BL600PT2 | 600 วัตต์
- ใช้ได้ทั้งเป่าลมและดูดฝุ่น เช่นใช้เป่าฝุ่นในเครื่องคอมพิวเตอร์
- ตัวเครื่องแข็งแรง ทนทาน
- มีถุงเก็บฝุ่นติดตั้งง่ายและสะดวก พกพาง่าย
- รับประกันตัวเครื่องสูงสุดถึง 6 เดือน
DEWALT รุ่น DWB6800-B1 | 800 วัตต์
- ใช้ได้ทั้งรถและบ้าน ออฟฟิศ สำนักงาน
- มีสวิตซ์เปิด - ปิดควบคุมการทำงาน การชาร์จ USB พกพา
- กำลังไฟ 800 วัตต์
- ความเร็วรอบ 0-16000 รอบต่อนาที.
- ปริมาตรลม 4.5 ลบ.ม.ต่อนาที
- แรงดูด 2.5 ลบ.ม.ต่อนาที
- น้ำหนัก 1.8 กก.
- อุปกรณ์เสริม 7 ชิ้น : ปากดูดยาว หัวเป่า สาย USB แปรงขนเป่า หัวดูดแปรงขน ฐานชาร์จ แปรงขัดพื้น
INGCO รุ่น AB8008 | 800 วัตต์
- เป่าลม / ดูดฝุ่นได้ สามารถปรับแรงลมได้
- แรงดันไฟฟ้า 220V-240V, 50/60Hz
- กำลังไฟฟ้า 800W
- ความเร็วรอบ 0-15000 รอบ/นาที
- ปริมาณแรงลม 0-4.5m3/min
MAKITA รุ่น HG-6003 | 1,800 วัตต์
- มีความทนทาน และพลังสูง
- ปรับอุณหภูมิได้ 2 ระดับ
- มือจับทำจากยาง สบายมือ
- ตัวเครื่องสามารถวางตั้งได้
- กำลังไฟฟ้าที่ใช้ 1,800W
- อุณหภูมิขณะใช้งาน (C) 600
- ขนาดเครื่อง (ม.ม.) 262 X 80 X 190 มม.
POLO รุ่น QG-001 | 2,000 วัตต์
- แรงดันไฟฟ้า : 220-240 โวลต์ / 50 เฮิรตซ์
- กำลังไฟ : 2000 วัตต์
- ปรับความร้อนได้ 2 ระดับ
- ระดับ 1 : 60-350 องศาเซลเซียส ปริมาณลม 300 ลิตร/นาที
- ระดับ 2 : 60-600 องศาเซลเซียส ปริมาณลม 500 ลิตร/นาที
- ประเภทพลังงาน : AC (กระแสไฟฟ้าสลับ)
- ปริมาณแรงลม : 300-500 ลิตร/นาที
- ความดัง : 50 ~ 60 เดซิเบล
- พลังงานหมุนเวียน : 7.5 แอมป์
- สามารถปรับอุณหภูมิตั้งแต่ 60-600 องศาเซลเซียส
เครื่องเป่าลม ยี่ห้อดัง ยอดนิยม
TP Tools Official
เครื่องเป่าลม By Lockcate
ETOP Official
เครื่องเป่าลม ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน
ประเภทของเครื่องเป่าลม มีอะไรบ้าง?
มีหลายประเภท เลือกใช้ตามความต้องการ ดังนี้:
1.แบบไฟฟ้า (Electric Air Blower): ใช้พลังงานไฟฟ้าในการเป่าลม มักมีขนาดเล็กถึงกลาง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการลมไม่มาก เช่น การทำความสะอาดเครื่องจักร
2.แบบแก๊ส (Gas-Powered Air Blower): เครื่องเป่าลมนี้ใช้น้ำมันหรือแก๊สเชื้อเพลิงในการขับเครื่อง มักมีกำลังการทำงานที่สูงกว่าแบบไฟฟ้า และเหมาะสำหรับงานที่ต้องการลมแรงมาก เช่น ในงานก่อสร้างหรือการล้างทาสี
3.แบบมือถือ (Handheld Air Blower): มีขนาดเล็กและเป็นพกพาได้ง่าย มักใช้ในการทำความสะอาดรถยนต์ ในสวน ในบ้านหรือในงานที่ต้องการความคล่องตัว เช่น การเป่าใบไม้หรือสะอาดพื้น
4.แบบอุตสาหกรรม (Industrial Air Blower): มีขนาดใหญ่ และมีความสามารถในการสร้างลมแรงและแรงดันสูง มักใช้ในงานอุตสาหกรรมหนักๆ เช่น ในการระบายอากาศมลพิษ, ในการขยายวัสดุ, หรือในกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
5.แบบลำเลียง (Centrifugal Air Blower): มีลำเลียงในตัวที่ใช้ในการเพิ่มความดันและสร้างลมแรง มักใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำและความเสถียร เช่น ในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม หรือในระบบระบายอากาศที่มีการควบคุมแบบที่แน่นอน
6.แบบแอร์คอมเพรสเซอร์ (Air Compressor): มักถูกใช้เป็นแหล่งจ่ายลมในการทำงานอุตสาหกรรมและงานก่อสร้าง เช่น ในการขับเครื่องจักร หรือในการใช้ในเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ลมในการทำงาน
วิธีเลือกซื้อเครื่องเป่าลม
ต้องพิจารณาความต้องการและการใช้งานของคุณอย่างรอบด้านเพื่อให้ได้เครื่องที่เหมาะสม ดังนี้:
1.ความต้องการในการสร้างลม: ก่อนที่จะซื้อ คุณควรระบุว่าคุณต้องการเครื่องที่สร้างลมแรงและความดันสูงหรือเพียงพอสำหรับงานที่คุณจะใช้ ยิ่งงานที่ต้องการลมแรงมาก เช่น งานอุตสาหกรรมหนักๆ ต้องการเครื่องที่มีกำลังเพียงพอ
2.ประเภทของเครื่องเป่าลม: คุณต้องเลือกประเภทของเครื่องเป่าลมที่เหมาะกับงานและการใช้งานของคุณ อย่างเช่น แบบไฟฟ้า / แบบแก๊ส / แบบมือถือและแบบอื่นๆ
3.ความปลอดภัย: ในงานที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น ในการทำความสะอาดอุปกรณ์แพทย์ คุณควรเลือกเครื่องเป่าลมที่มีระบบกรองอากาศและเสียงเบา เพื่อลดอันตรายจากฝุ่นและมลพิษ
4.ความพร้อมในการบำรุงรักษา: ควรพิจารณาว่าดูแลและบำรุงรักษาอย่างไร เช่น การทำความสะอาดพัดลมและฟิลเตอร์ การซื้อเครื่องที่ง่ายต่อการบำรุงรักษา อาจช่วยลดความยุ่งยากในการดูแล
5.ความเหมาะสมต่องบประมาณ: คุณควรกำหนดงบประมาณที่พร้อมจ่าย ราคามีความแตกต่างกันตามประเภทและขนาด คุณควรคิดรวมค่าซื้อเครื่อง, ค่าบำรุงรักษา, และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น ค่าไฟฟ้าหรือน้ำมัน และอื่นๆ
6.เกี่ยวกับแบรนด์: การเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ จะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและการบริการหลังการขายของเครื่องที่คุณเลือก
7.ความเหมาะสมกับงาน: คุณควรคิดถึงขนาดและกำลังของเครื่อว่าเหมาะสมกับงานที่คุณจะใช้หรือไม่ เลือกเครื่องที่มีกำลังและลมที่เหมาะกับงานในขณะเดียว
8.การค้นหารีวิวและคำแนะนำ: ค้นหารีวิวและคำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องที่คุณสนใจ เพื่อเข้าใจประสิทธิภาพและประสิทธิผลจริงของผู้ใช้คนอื่นๆ
การใช้เวลาในการศึกษาและวางแผนให้ถูกต้องก่อนที่จะซื้อ จะช่วยให้คุณได้รับคุณภาพที่ดีที่สุดและความคุ้มค่าสูงสุดจากการลงทุนของคุณ
ประโยชน์ของเครื่องเป่าลม
1.การทำความสะอาด: สามารถใช้ในการทำความสะอาดสิ่งของต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเป่าล้างฝุ่น, ฟุตเวอร์, เครื่องมือ, หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ
2.การล้างล้างและทำความสะอาดอุตสาหกรรม: ในงานอุตสาหกรรมและการผลิต ล้างและเอาสิ่งสกปรกออกจากเครื่องจักรและอุปกรณ์ ซึ่งช่วยในการรักษาความสะอาดและประสิทธิภาพของเครื่องจักร
3.การขยายวัสดุ: สามารถใช้ในการขยายวัสดุแบบพลาสติกหรือยาง ซึ่งช่วยให้วัสดุใหญ่ขึ้น อย่างเช่น ลูกโป่ง หรือที่นอนเติมลม
4.การทำความสะอาดรถยนต์: เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดรถยนต์ สามารถใช้ในการล้างรถ, เครื่องยนต์, ล้อ, และส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์
5.การใช้ในกีฬาและนันทนาการ: มักใช้ในกีฬาอากาศ เช่น บาสเก็ตบอล, ฟุตบอล, และวอลเลย์บอล เพื่อให้ลูกบอลมีลมอยู่ด้านใน
6.การใช้ในงานฝีมือ: มักใช้ในการล้างและทำความสะอาดพื้นหรือผนังก่อนการทาสีหรือปูน
7.การใช้ในการประกอบและการผลิต: ล้างสิ่งของก่อนการประกอบ, การแยกชิ้นส่วน, หรือการเตรียมพื้นที่ที่จะติดตั้งสิ่งของ
8.การทำความสะอาดและดูแลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: สามารถใช้ในการทำความสะอาดและดูแลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์, เครื่องทำความเย็น, หน้าจอ, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย
เป็นเครื่องมือที่หลากหลา สามารถช่วยในงานต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อย
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างการไหลของอากาศโดยใช้พลังงานเพื่อให้ลมถูกพัดเข้าหรือพัดออกจากเครื่อง ทำงานโดยการหมุนพัดลมภายในเครื่องเพื่อดูดอากาศเข้ามาและออกไป สามารถใช้ในหลายงานต่าง ๆ เช่น การขยายวัสดุ, หรือการระบายอากาศมลพิษ
มีหลายประเภทของเครื่องเป่าลม โดยบางประเภทจะเหมาะกับงานและการใช้งานที่แตกต่างกัน บางประเภทที่พบบ่อยคือแบบไฟฟ้า, แบบแก๊ส, และแบบมือถือ
เพื่อรักษาความประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่อง ควรทำการบำรุงรักษาตามคำแนะนำจากผู้ผลิต ซึ่งอาจรวมถึงการทำความสะอาดพัดลมและฟิลเตอร์เป็นประจำ เพื่อล้างสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง
มีความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและมีความระมัดระวังเมื่อใช้งาน เช่น
- อย่าใช้ในที่ที่มีแก๊สระเบิดหรือแหล่งเสี่ยงไฟฟ้า,
- อย่าใช้ในที่มีอากาศมลพิษโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน,
- อย่าใช้ในที่ที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงดันอากาศอย่างรวดเร็วได้
มักมีการใช้งานทางการแพทย์ในงานที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น ในการทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมีการใช้เครื่องเป่าลมเพื่อล้างสิ่งสกปรกและเช็ดเครื่องมืออย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและความสกปรกที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ