- เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder
- เครื่องย่อยกระดาษ Iris Ohyama A4
- เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 23 ลิตร
- เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 4 ลิตร
- เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 12/15 ลิตร
- เครื่องย่อยกระดาษ Office Plus Paper Shredder
- เครื่องย่อยกระดาษ NEO รุ่น STS06S
- เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 2.5 ลิตร
- เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 17/20 ลิตร
- เครื่องย่อยกระดาษ Office Plus รุ่น LM-23
เครื่องทำลายเอกสาร หรือเครื่องย่อยเอกสาร คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำลายเอกสารที่เป็นความลับ ย่อยเอกสารให้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือทำให้ไม่สามารถอ่านได้อีก ช่วยป้องกันการรั่วไหลข้อมูลที่สำคัญและความลับออกไปยังบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลนั้นๆ
มักใช้ในสถาบันการเงิน องค์กรธุรกิจ หรือองค์กรรัฐบาลเพื่อทำลายเอกสารที่มีข้อมูลสำคัญ เช่น รายงานการเงิน ข้อมูลลูกค้า หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความลับขององค์กร นอกจากนี้ ยังมีการใช้ในบ้านเพื่อทำลายเอกสารส่วนตัวที่ไม่ต้องการอีกด้วย เช่น เอกสารที่หมดอายุหรือเอกสารที่ไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาอีกต่อไป เพื่อป้องกันการนำข้อมูลส่วนตัวมาใช้ประโยชน์ที่ไม่เหมาะสม หรือมีโทษที่ไม่ดีต่อเจ้าของข้อมูลนั้นๆ | จัดอันดับโดยเว็บ pro4289.com
10 อันดับ เครื่องทำลายเอกสาร ยี่ห้อไหนดี 2024
เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder
- ทำลายเอกสารได้ละเอียด เพียง 4 x 33mm
- ช่องหย่อนทำลายเอกสารขนาด 220 มม (A4)
- ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 2-5 นาที
- ใบมีดคมทนทานต่อการใช้งาน
- มีระบบการป้องกันความร้อนสูงเกิน
- เครื่องทำงานเงียบ เพียงแค่ 80 เดซิเบลเท่านั้น
- มีช่องแยกเก็บเศษพลาสติก ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน
- สามารถใส่กระดาษได้ครั้งละ 5 แผ่น / 6 แผ่น / 8 แผ่น / 10 แผ่น (80gsm)
เครื่องย่อยกระดาษ Iris Ohyama A4
- คุณภาพมาตรฐานแบรนด์ญี่ปุ่น
- ขนาดกะทัดรัด สำหรับการใช้งานแบบส่วนตัว
- ใช้ใน Home office หรือในช่วง Work from Home ก็สะดวก
- สามารถย่อยกระดาษ A4 ได้ 8 แผ่นอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลารวดเร็ว
- Design สวย เรียบหรู เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ทุกรูปแบบ
- ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา ประมาณ 3.7 กิโลกรัมเท่านั้น
- สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ทุกมุมทำงาน
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีครีม และสีน้ำตาล
- ขนาดถังใส่กระดาษ 8.9 ลิตร กินไฟน้อย เพียง 165W
เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 23 ลิตร
- ช่องหย่อนทำลายเอกสาร 220 มม (A4)
- น้ำหนักเบาเพียง 9.1 กิโลกรัม
- ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 10 นาที
- มีขนาดกระทัดรัด เพียง 350*250*550mm เท่านั้น
- ใบมีดคมทนทานต่อการใช้งาน
- กล่องเก็บเศษกระดาษขนาดใหญ่ถึง 23 ลิตร
- มีระบบการป้องกันความร้อนสูงเกิน
- เครื่องใช้ไฟน้อย เพียง 80 โวลล์ (ต่อสายผ่านอะเดปเตอร์)
- เครื่องทำงานเงียบ เพียงแค่ 60 เดซิเบลเท่านั้น
- มีช่องแยกเก็บเศษพลาสติก ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน
- ทำลายเอกสารได้ละเอียด เพียง 4x25mm
- สามารถใส่กระดาษได้ครั้งละ 16 แผ่น
เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 4 ลิตร
- ทำลายเอกสารได้ละเอียด เพียง 3x23mm
- น้ำหนักเบาเพียง 1 กิโลกรัม
- ช่องหย่อนทำลายเอกสาร 220 มม (A4)
- มีขนาดกระทัดรัด เพียง 335×144×175mm เท่านั้น
- เครื่องทำลายเอกสาร / แผ่นซีดี / บัตรเครดิต แบบมือหมุน
- กล่องเก็บเศษกระดาษขนาดใหญ่ถึง 4 ลิตร
- ใบมีดคมทนทานต่อการใช้งาน
- เสียงเงียบ สะดวก ประหยัด และปลอดภัย
- เหมาะสำหรับใช้ในสำนักงาน ที่บ้าน โรงเรียนและสถานที่อื่นๆ
เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 12/15 ลิตร
- ช่องหย่อนทำลายเอกสาร 220 มม (A4)
- น้ำหนักเบาเพียง 3.7 กิโลกรัม
- ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 5 นาที
- มีขนาดกระทัดรัด เพียง 320*200*350mm เท่านั้น
- ใบมีดคมทนทานต่อการใช้งาน
- กล่องเก็บเศษกระดาษขนาดใหญ่ถึง 12 ลิตร (E9939) / 15 ลิตร (9928)
- มีระบบการป้องกันความร้อนสูงเกิน
- เครื่องใช้ไฟน้อย เพียง 80 โวลล์ (ต่อสายผ่านอะเดปเตอร์)
- เครื่องทำงานเงียบ เพียงแค่ 62 เดซิเบลเท่านั้น
- มีช่องแยกเก็บเศษพลาสติก ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน
- ทำลายเอกสารได้ละเอียด เพียง 4 x 25mm ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟื้นฟู
- สามารถใส่กระดาษได้ครั้งละ 5 แผ่น
เครื่องย่อยกระดาษ Office Plus Paper Shredder
- ตัวเครื่องดีไซน์ที่ทันสมัย สวยงาม แข็งแรง
- ทำลายเอกสารขนาด A4
- มีปุ่มถอยหลังเมื่อมีกระดาษติดค้าง
- ทำลายเอกสารแบบเส้นตรง (Strip-Cut)
- ขนาดเศษเอกสารหลังทำลาย : 0.6 ซม.
- ทำลายเอกสารได้ไม่เกิน 6 แผ่น/ครั้ง (กระดาษหนาได้ 75G-125G)(A4)
- ความเร็วในการทำลาย ประมาณ 3 เมตร/นาที
- ช่องรับเอกสารกว้าง 22 ซม.
- ถังจุปริมาณกระดาษได้ 10 ลิตร
- ระยะเวลาในการทำงานต่อเนื่อง 5-10 นาที
- ระยะเวลาในการหยุดพักเครื่อง 20-30 นาที
- ระดับเสียงขณะเครื่องทำงาน : 72 เดซิเบล
เครื่องย่อยกระดาษ NEO รุ่น STS06S
- เครื่องทำลายเอกสารแบบตัดเส้นตรง (Strip Cut)
- จำนวนแผ่นในการตัดเอกสาร 6 แผ่น/ครั้ง (A4/70 แกรม)
- ขนาดเอกสารหลังทำลาย 6 มม.
- ช่องรับเอกสารกว้าง 220 มม.
- ความเร็วในการย่อย 2 เมตร/นาที
- ถังจุปริมาณกระดาษ 7 ลิตร
- ระเวลาในการหยุดพักเครื่อง 30 นาที
- ระดับเสียงขณะทำงาน 74 เดซิเบล
เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 2.5 ลิตร
- ทำลายเอกสารได้ละเอียด เพียง 4 x 35mm
- มีขนาดกระทัดรัด เพียง 250*164*192mm เท่านั้น
- สามารถใส่กระดาษได้ครั้งละ 8 แผ่น
- กล่องเก็บเศษกระดาษขนาดใหญ่ถึง 2.5 ลิตร
- ช่องหย่อนทำลายเอกสาร 210 มม (A5)
- เครื่องใช้ไฟน้อย เพียง 80 โวลล์ (ต่อสายผ่านอะเดปเตอร์)
- ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 10 นาที
- มีระบบการป้องกันความร้อนสูงเกิน
- เครื่องทำงานเงียบ เพียงแค่ 60 เดซิเบลเท่านั้น
- ใบมีดคมทนทานต่อการใช้งาน
- มีช่องแยกเก็บเศษพลาสติก ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน
เครื่องย่อยกระดาษ Deli Paper Shredder 17/20 ลิตร
- ทำลายเอกสารได้ละเอียด เพียง 5 x 38mm
- น้ำหนักเบาเพียง 5.2 กิโลกรัม
- ช่องหย่อนทำลายเอกสาร 220 มม (A4)
- มีขนาดกระทัดรัด เพียง 361×235×420mm เท่านั้น
- ความเร็วในการทำลาย: 2m/min
- กล่องเก็บเศษกระดาษขนาดใหญ่ถึง 20 ลิตร (E9948) / 17 ลิตร (E9929)
- ใบมีดคมทนทานต่อการใช้งาน
- เครื่องใช้ไฟน้อย เพียง 80 โวลล์ (ต่อสายผ่านอะเดปเตอร์)
- มีระบบการป้องกันความร้อนสูงเกิน
- เครื่องทำงานเงียบ เพียงแค่ 80 เดซิเบลเท่านั้น
- มีช่องแยกเก็บเศษพลาสติก ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน
- สามารถใส่กระดาษได้ครั้งละ 10 แผ่น
เครื่องย่อยกระดาษ Office Plus รุ่น LM-23
- ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติก สีดำเงา ดีไซน์สวยงาม
- รองรับการเคลือบ "แบบร้อน" เท่านั้น
- ความเร็วในการเคลือบเอกสาร 28 ซม./นาที
- ระยะเวลาในการอุ่นเครื่อง 2-3 นาที
- ความหนาพลาสติกเคลือบที่รองรับ 80 / 100 / 125 ไมครอน
- ความกว้างของเอกสารที่เคลือบ 23.2 ซม. (ขนาด A4)
- จำนวนลูกกลิ้งความร้อน 2 ลูก
- มีปุ่ม Release สำหรับหยุดลูกกลิ้งเพื่อดึงกระดาษออก
- รองรับเอกสารความหนาไม่เกิน 0.6 มม.
- ไฟสถานะ : สีแดง และ สีเขียว
- มีคู่มือการใช้งานภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
เครื่องทำลายเอกสาร ยี่ห้อดัง ยอดนิยม
XiaoAi Official
เครื่องทำลายเอกสาร ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน
ประเภทของเครื่องย่อยกระดาษ มีอะไรบ้าง?
ประเภทของเครื่องย่อยกระดาษ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการและการใช้งานต่าง ๆ ดังนี้:
1.เครื่องย่อยกระดาษที่ใช้ที่บ้าน (Personal Shredders): เป็นเครื่องย่อยกระดาษขนาดเล็กที่ใช้ในบ้านหรือสำนักงาน เหมาะสำหรับการย่อยกระดาษจำนวนน้อยที่มีข้อมูลส่วนตัว หรือเอกสารที่ไม่ต้องการอีก มักมีระดับความปลอดภัย P-2 หรือ P-3
2.เครื่องย่อยกระดาษสำนักงาน (Office Shredders): เครื่องย่อยกระดาษสำนักงานมีขนาดใหญ่กว่า และมีความสามารถในการย่อยกระดาษมากขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในสำนักงานขนาดกลางถึงใหญ่ สามารถทำงานต่อเนื่องได้นาน
3.เครื่องย่อยกระดาษพาเหรด (Industrial Shredders): เครื่องย่อยกระดาษประเภทนี้มีขนาดใหญ่ และมีความสามารถในการย่อยกระดาษอย่างรวดเร็วและประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม หรือองค์กรที่มีปริมาณเอกสารมาก
4.เครื่องย่อยกระดาษที่ย่อย CD/DVD หรือมีความสามารถในการย่อยวัตถุเทียม: บางรุ่นของเครื่องย่อยกระดาษ มีความสามารถในการย่อยวัตถุเทียมอื่น ๆ นอกเหนือจากกระดาษ เช่น แผ่น CD, DVD, การ์ดเครดิต, หรือแม้กระทั่งแผ่นโลหะบาง ๆ โดยมีดและดอกมีดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับวัตถุเหล่านี้
5.เครื่องย่อยกระดาษอุตสาหกรรม (Heavy-Duty Shredders): เครื่องย่อยกระดาษประเภทนี้ใช้ในงานอุตสาหกรรมหนักๆ เช่น ในโรงงานหรือสถานที่ที่มีความต้องการในการย่อยเอกสารมากมายในระดับสูง มักมีความสามารถในการย่อยเอกสารเป็นปึกหนา
วิธีเลือกซื้อเครื่องย่อยกระดาษ
การเลือกซื้อเครื่องย่อยกระดาษ มีความสำคัญเพื่อให้คุณได้เครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของคุณ ต่อไปนี้คือขั้นตอนและปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อเครื่องย่อยกระดาษ:
1.ปริมาณเอกสารที่ต้องการย่อย: คิดว่าคุณจะต้องย่อยเอกสารเท่าไหร่ในแต่ละครั้งหรือในระยะเวลาหนึ่ง เครื่องย่อยกระดาษมีความจุที่แตกต่างกัน บางรุ่นเหมาะสำหรับการย่อยเอกสารปริมาณน้อยในบ้าน ในขณะที่บางรุ่นใช้งานได้ตลอดเวลาในสถานที่ที่มีความต้องการในการย่อยมาก เลือกเครื่องที่มีความจุที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
2.ระดับความปลอดภัย: ควรพิจารณาระดับความปลอดภัยที่คุณต้องการสำหรับเอกสารของคุณ เครื่องย่อยกระดาษมีระดับความปลอดภัยต่าง ๆ ตามมาตรฐาน P-1 ถึง P-7 โดย P-7 เป็นระดับความปลอดภัยที่สูงสุด ควรเลือกเครื่องที่มีระดับความปลอดภัยที่เหมาะกับข้อมูลที่คุณจะย่อย
3.ขนาดและพื้นที่: ต้องพิจารณาพื้นที่ในสถานที่ที่คุณจะตั้งเครื่องย่อยกระดาษ เครื่องย่อยกระดาษมีขนาดและน้ำหนักที่แตกต่างกัน คุณควรตรวจสอบว่ามีพื้นที่เพียงพอในสถานที่นั้นๆ และสามารถติดตั้งได้
4.ความสามารถในการย่อยวัตถุอื่น ๆ: หากคุณต้องการย่อยวัตถุอื่นที่ไม่ใช่กระดาษ เช่น CD, DVD, การ์ดเครดิต หรือแผ่นโลหะบาง ๆ ควรเลือกเครื่องที่มีความสามารถในการย่อยวัตถุเหล่านี้
5.คุณภาพและราคา: ควรเลือกเครื่องย่อยกระดาษที่มีคุณภาพและมีราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ เปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติของหลายรุ่นก่อนที่จะตัดสินใจ
6.ความเงียบ: หากคุณต้องการใช้เครื่องย่อยกระดาษในสถานที่ที่ต้องการความเงียบ เช่น ในสำนักงานหรือห้องทำงานที่ร่มรื่น ควรเลือกเครื่องที่มีเสียงดังน้อย
7.การบำรุงรักษา: ควรสอบถามเกี่ยวกับวิธีการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมเครื่องย่อยกระดาษ เพื่อให้คุณสามารถรักษาเครื่องให้ใช้งานได้นานและมีประสิทธิภาพตลอดเวลา
8.รีวิวและความคิดเห็น: คุณสามารถอ่านรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานอื่น ๆ เพื่อเข้าใจประสบการณ์การใช้งานจริงของเครื่องย่อยกระดาษรุ่นนั้น ๆ
การเลือกซื้อเครื่องย่อยกระดาษ ควรพิจารณาความต้องการและสภาพแวดล้อมของคุณอย่างรอบด้านเพื่อให้ได้เครื่องที่ตรงกับความต้องการและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของเครื่องย่อยกระดาษ
การใช้เครื่องย่อยกระดาษ มีหลายประโยชน์ที่สำคัญต่อการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสำคัญ นี่คือบางประโยชน์ที่สำคัญของเครื่องย่อยกระดาษ:
1.ความปลอดภัยของข้อมูล: เครื่องย่อยกระดาษช่วยในการทำลายเอกสารที่มีข้อมูลสำคัญและความลับอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลนั้นออกมาอีก ซึ่งเป็นการป้องกันการรั่วไหลข้อมูลและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมข้อมูล
2.ป้องกันการเปิดเผยข้อมูล: การทำลายเอกสารที่ไม่ต้องการและข้อมูลส่วนตัว ช่วยป้องกันการเปิดเผยข้อมูลต่อคนที่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึง
3.ความสะดวกสบายในการกำจัดขยะ: ทำให้การกำจัดขยะที่มาจากเอกสารเป็นเรื่องสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยไม่ต้องเผื่อพื้นที่ให้กับเอกสารที่ไม่ได้ใช้
4.การป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร: การทำลายเอกสารที่มีข้อมูลสำคัญช่วยลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงเอกสาร โดยที่ผู้ไม่หวังดี จะไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการปลอมแปลงเอกสารได้
5.ความเป็นส่วนตัว: การย่อยเอกสารส่วนตัวที่ไม่ต้องการ ทำให้คุณรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในกรณีข้อมูลส่วนตัวหรือทางการแพทย์
6.ประหยัดพื้นที่: การทำลายเอกสารแทนการเก็บรักษาเอกสารที่ไม่ต้องการ ช่วยประหยัดพื้นที่ในสำนักงานหรือบ้านของคุณ
7.เพิ่มความสะดวกในการทำงาน: เครื่องย่อยกระดาษที่มีความสามารถในการย่อยเอกสาร ช่วยลดเวลาในการทำลายเอกสารและทำให้งานในสำนักงานมีความสะดวกมากขึ้น
8.ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม: การย่อยเอกสารที่ไม่ต้องการ ช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปที่ถังขยะทั่วไป และลดการใช้กระดาษ ทำให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง
การใช้เครื่องย่อยกระดาษเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยให้การจัดการเอกสารและข้อมูลเป็นเรื่องสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
คำถามที่พบบ่อย
เครื่องย่อยกระดาษทำงานโดยใช้มีดหรือดอกมีด เพื่อแยกเอกสารออกเป็นชิ้นย่อยเล็ก ๆ โดยที่เอกสารจะถูกดึงเข้าไปในช่องสำหรับใส่กระดาษของเครื่อง มีดหรือดอกมีดจะหมุนเร็วและสลายเอกสารให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งจะออกมาทางด้านล่างของเครื่องในลักษณะสามเหลี่ยมสี่เหลี่ยมหรือลักษณะอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับรูปแบบของเครื่องย่อยกระดาษ หลังจากนั้น เอกสารชิ้นย่อยที่เกิดขึ้นนั้นสามารถนำไปกำจัด หรือนำออกไปทิ้งได้ตามที่ต้องการ
มี 3 ระดับ สำหรับความปลอดภัยในการย่อยเอกสารคือ:
- ระดับที่ 1 (P-1): ชิ้นย่อยเอกสารให้เป็นส่วนย่อยขนาดใหญ่กว่า 30 มม. x 40 มม. เหมาะสำหรับข้อมูลที่ไม่สำคัญมาก
- ระดับที่ 2 (P-2): ชิ้นย่อยเอกสารให้เป็นส่วนย่อยขนาดเล็กกว่า 15 มม. x 6 มม. เหมาะสำหรับข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัยมากขึ้น
- ระดับที่ 3 (P-3): ชิ้นย่อยเอกสารให้เป็นแถบแบบสาธารณะที่มีความกว้างไม่เกิน 2 มม. และความยาวไม่เกิน 12 มม. เหมาะสำหรับข้อมูลที่มีความลับสูง
บางรุ่นของเครื่องย่อยกระดาษสามารถย่อยวัตถุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่กระดาษได้ เช่น การย่อยบัตรเครดิตที่หมดอายุ, แผ่นพลาสติก, แผ่นโลหะบาง ๆ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบความสามารถของเครื่องย่อยกระดาษเฉพาะรุ่นที่คุณมีอยู่ เนื่องจากไม่ทุกเครื่องย่อยกระดาษสามารถย่อยวัตถุอื่น ๆ ได้
เพื่อให้เครื่องย่อยกระดาษทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาอายุการใช้งานที่ยาวนาน ควรดูแลและบำรุงเครื่องดังนี้:
- ตรวจสอบและล้างถาดรองเครื่องเป็นประจำ เพื่อกันการสะสมขยะและฝุ่น
- ใช้น้ำมันที่เหมาะสมสำหรับเครื่องย่อยกระดาษ เพื่อรักษามีดและดอกมีดให้มีความคมและไม่ติดติด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้ผลิตเกี่ยวกับการรักษาเครื่องย่อยกระดาษ เพื่อป้องกันความเสียหายและอุบัติเหตุ
หากเครื่องย่อยกระดาษของคุณติดหรือชำรุด คุณควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- หยุดใช้งานทันทีและถอดปลั๊กไฟเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
- ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือคู่มือการบำรุงรักษาที่มากับเครื่อง เพื่อดูวิธีการแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
- หากคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาเอง ควรติดต่อผู้ผลิตหรือศูนย์บริการลูกค้าเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมหรือการบริการซ่อมแซม