- Gigabyte รุ่น P750GM | 750W
- Thermaltake รุ่น Smart BX1 | 650W
- Gigabyte รุ่น P550B | 550W
- Antec รุ่น VP700P Plus | 700W
- Corsair รุ่น RM850E | 850W
- MSI รุ่น MAG-A550BN 80 Plus Bronze | 550W
- Gigabyte รุ่น UD750GM | 750W
- Gigabyte รุ่น AORUS 80+ Gold | 750W
- Thermaltake รุ่น Toughpower GF3 Gold | 1000W
- Gigabyte รุ่น P650B | 650W
เครื่องสำรองจ่ายไฟ (Power Supply) คืออุปกรณ์ที่ใช้จ่ายไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ในการให้พลังงานไฟฟ้าที่จำเป็นในการทำงานของอุปกรณ์เหล่านั้น หน้าที่หลักของเครื่องสำรองจ่ายไฟคือแปลงไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้าจากเสาไฟฟ้าหรือแหล่งพลังงานอื่น ๆ ให้เป็นไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของอุปกรณ์และอิเล็กทรอนิกส์ที่เราต้องการใช้งาน มีหลายรูปแบบและขนาดต่าง ๆ ตามความต้องการ เครื่องสำรองจ่ายไฟมักมีหน่วยวัดความจุในวัตต์ (Watt) ซึ่งต้องเลือกให้ตรงกับความต้องการพลังงานไฟฟ้าของอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับเครื่องสำรองจ่ายไฟ เพื่อให้การจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่อุปกรณ์มีความเพียงพอและปลอดภัย | จัดอันดับโดยเว็บ pro4289.com
10 อันดับ Power Supply ยี่ห้อไหนดี 2024
Gigabyte รุ่น P750GM | 750W
- แรงดันไฟฟ้าขาเข้า 100 ~ 240 VAC
- ช่วงความถี่อินพุต 50 ~ 60 เฮิรตซ์
- ประสิทธิภาพโหลดทั่วไป 90% หรือสูงกว่า
- แรงดันไฟฟ้า +3.3V +5V +12V +5Vsb -12V
- กำลังไฟรวม 105W 849.6W 15W 3.6W
- กำลังขับสูงสุด 850W @ 50 °C
- ขนาด 150 x 140 x 86 มม
- การป้องกัน OPP / OCP / OTP / OVP / UVP / SCP
Thermaltake รุ่น Smart BX1 | 650W
- Type : ATX 12V v2.3 and EPS v2.92
- Max. Output Capacity : 750W
- ขนาดพัดลม 12cm Hydraulic bearing fan
- รองรับไฟได้ 230V 50Hz
- ขนาด 150 x 86 x 140 มม.
- ระบบป้องกันไฟเกิน : CE, CB, TUV, EAC, RCM
- Efficiency Meet 80 PLUS®Bronze 230V EU certified
- Storage Temperature -40°C to + 55°C
Gigabyte รุ่น P550B | 550W
- ชนิด Intel ฟอร์มแฟคเตอร์ ATX 12V v2.31
- แรงดันไฟฟ้าขาเข้า 100-240 Vac (เต็มช่วง)
- ความถี่อินพุต 50-60 เฮิรตซ์
- ความจุขาออก 650W
- ขนาด D150 x W140 x H86 มม
- ประเภทพัดลมแบริ่งไฮดรอลิกขนาด 120 มม
- ประสิทธิภาพมากถึง 85% ที่โหลดทั่วไป
- การป้องกัน OPP / UVP / OVP / SCP / OCP
- กฎระเบียบ CE / CCC / BSMI / KCC / EAC / UL / TUV / RCM / FCC / PSE
Antec รุ่น VP700P Plus | 700W
- ขึ้นอยู่กับไฟสูงสุด700 W
- ขนาดพัดลม120 มม
- สามารถถอดสายได้
- ส่วนฐานรับรอง80+
- ระบบป้องกันไฟเกิน UVP / OVP / SCP / OPP / NLO
- ปัจจุบันไฟใช้งานได้ 200-240 VAC VAC
- ขนาด140 x 150 x 86 มม. มม
- ขั้วต่อเมนบอร์ด20+4พิน
- ขั้วต่อ PCI Ex 6+2 พิน
- ขั้วต่อ Sata7
- ขั้วต่อโมเล็กซ์ 2
- ตัวเชื่อมต่อฟลอปปี้ 1
Corsair รุ่น RM850E | 850W
- ประเภทโมดูลาร์เต็มรูปแบบ
- กำลังไฟฟ้าสูงสุด 850 วัตต์
- ขั้วต่อ PCI-Express x6 (6+2 พิน)
- ขั้วต่อไฟ SATA x12
- พัดลม 135 มม.
- แรงดันไฟฟ้าขาเข้า 100-240 Vac
- กระแสไฟเข้า 10 A
- ช่วงความถี่อินพุต 50-60 เฮิรตซ์
- ประหยัดพลังงาน 80 พลัสโกลด์
- ขนาด 16.0 x 15.0 x 8.6 ซม
- น้ำหนัก 2.0 กก
MSI รุ่น MAG-A550BN 80 Plus Bronze | 550W
- PSU ฟอร์มแฟกเตอร์ ATX
- กำลังวัตต์ 550W
- แรงดันไฟฟ้าขาเข้า 100-240Vac
- กระแสไฟเข้าสูงสุด 115Vac/8.0A สูงสุด 230Vac/4.0A
- ความถี่อินพุต 50Hz ~ 60Hz
- ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 85% (80 Plus Bronze)
- ขนาดพัดลม 120 มม.
- ขนาด 150 x 140 x 86 มม.
- ประเภท PFC Active PFC
- การป้องกัน OCP / OVP / OPP / OTP / SCP
Gigabyte รุ่น UD750GM | 750W
- ฟอร์มแฟคเตอร์มาตรฐาน ATX 12V v2.31
- แรงดันไฟฟ้าขาเข้า 100 ~ 240 VAC
- ช่วงความถี่อินพุต 50 ~ 60 เฮิรตซ์
- อินพุทปัจจุบัน 12A ~ 6A
- ประสิทธิภาพโหลดทั่วไป 90% หรือสูงกว่า
- แรงดันไฟฟ้า +3.3V +5V +12V +5Vsb -12V
- ปัจจุบัน 20A 20A 70.8A 3.0A 0.3A
- กำลังไฟรวม 105W 849.6W 15W 3.6W
- กำลังขับสูงสุด 850W @ 50 °C
- การป้องกัน OPP / OCP / OTP / OVP / UVP / SCP
- พัดลมระบายความร้อนด้วยแบริ่งไฮดรอลิก (HYB) ขนาด 120 มม
- ขนาด 150 x 140 x 86 มม.
Gigabyte รุ่น AORUS 80+ Gold | 750W
- ชนิด Intel Form Factor ATX 12V v2.31
- แรงดันไฟฟ้าขาเข้า 100-240 Vac (เต็มช่วง)
- กระแสไฟเข้า 10A
- ความถี่อินพุต 47-63 เฮิรตซ์
- ความจุเอาท์พุต 750W
- ขนาด 150 x 160 x 86 มม.
- พัดลมประเภท 135 มม. พัดลมลูกปืนคู่
- ประสิทธิภาพ 90% ที่โหลดทั่วไป
- กำลังสัญญาณดี 100ms ~ 150ms
- เวลาค้าง > 16m วินาทีที่โหลดเต็ม (115V)
- การออกแบบโมดูลาร์อย่างเต็มที่
- ตัวเก็บประจุคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น 100%
- พัดลมสมาร์ทลูกปืน 135 มม. 2 ลูกพร้อมฟังก์ชั่นหยุดพัดลม
- ได้รับการรับรอง 80 PLUS Gold: ประสิทธิภาพสูงกว่า 90% ที่โหลด 50%
- รางเดี่ยว + 12V
- การป้องกัน OCP / OTP / OVP / OPP / UVP / SCP
Thermaltake รุ่น Toughpower GF3 Gold | 1000W
- กำลังไฟฟ้าสูงสุด : 1000 วัตต์
- ขั้วต่อ PCI-Express : x1 (12+4 พิน), x4 (6+2 พิน)
- ขั้วต่อไฟ SATA : x12
- พัดลม : 135 มม
- แรงดันไฟฟ้าขาเข้า : 100-240 Vac
- กระแสไฟเข้า : 13.0 A / 6.5 A
- ช่วงความถี่อินพุต : 50-60 Hz
- ประหยัดพลังงาน : 80 Plus Gold
- ขนาด 15.0 x 16.0 x 8.6 ซม
- น้ำหนัก : 1.72 กก
- การป้องกัน OCP / OVP / UVP / OPP / SCP / OTP
Gigabyte รุ่น P650B | 650W
- ชนิด Intel ฟอร์มแฟคเตอร์ ATX 12V v2.31
- แรงดันไฟฟ้าขาเข้า 100-240 Vac (เต็มช่วง)
- ความถี่อินพุต 50-60 เฮิรตซ์
- ความจุขาออก 650W
- ขนาด 150 x 140 x 86 มม.
- ประเภทพัดลมแบริ่งไฮดรอลิกขนาด 120 มม
- ประสิทธิภาพ มากถึง 85% ที่โหลดทั่วไป
- การป้องกัน OPP / UVP / OVP / SCP / OCP
- กฎระเบียบ CE / CCC / BSMI / KCC / EAC / UL / TUV / RCM / FCC / PSE
Power Supply ยี่ห้อดัง ยอดนิยม
Power Supply ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน
ประเภทของเครื่องสำรองจ่ายไฟ มีอะไรบ้าง?
เครื่องสำรองจ่ายไฟมีหลายประเภท ออกแบบมาเพื่อให้ความเหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานต่าง ๆ ดังนี้:
1.Linear Power Supply (LPS): เป็นเครื่องสำรองจ่ายไฟที่ใช้ทรานส์ฟอร์เมอร์แบบแปรผันเพื่อแปลงแหล่งพลังงานไฟฟ้าให้ออกมาเป็นไฟฟ้าที่เสถียรและมีความต่ำในระดับรบกวน (Noise) มักถูกใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรและคุณภาพสูง เช่น เครื่องขยายเสียง
2.Switching Power Supply (SMPS): เป็นเครื่องสำรองจ่ายไฟที่ใช้วงจรสวิตชิ่งเพื่อแปลงแหล่งพลังงานไฟฟ้า เป็นไฟฟ้าแบบสัญญาณเปิด-ปิดตามความต้องการ เครื่องสำรองจ่ายไฟแบบนี้มีขนาดเล็กและมีความมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานไฟฟ้า มักใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์
3.Uninterruptible Power Supply (UPS): เป็นเครื่องสำรองจ่ายไฟที่มีฟังก์ชันการสำรองจ่ายไฟฟ้าในกรณีที่มีไฟดับ โดยมีแบตเตอรี่ภายในเพื่อให้ไฟฟ้าคงที่ในขณะที่มีการเปลี่ยนสลับไปยังแหล่งพลังงานไฟฟ้าอื่น ๆ เครื่อง UPS มักใช้ในสำนักงานและศูนย์ข้อมูลเพื่อปกป้องข้อมูลและอุปกรณ์ต่าง ๆ จากการไฟดับ
4.DC Power Supply: เป็นเครื่องสำรองจ่ายไฟที่ให้ไฟฟ้าแบบกระจาย (Direct Current) โดยส่วนใหญ่ใช้ในงานทดสอบและการวิเคราะห์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการให้พลังงานไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการไฟฟ้าแบบกระจาย
5.Battery Backup Power Supply: หรือเครื่องสำรองจ่ายไฟที่ใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานหลัก โดยใช้แบตเตอรี่เพื่อสำรองจ่ายไฟในกรณีไฟฟ้าดับ มักใช้ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการการสำรองจ่ายไฟในกรณีฉุกเฉิน เช่น ไฟฉุกเฉินของอาคารหรือการบิน
6.Rack-Mount Power Supply: สำหรับใช้ในศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์เครือข่าย มักมีหลายช่องต่อและความจุสูง เพื่อให้รองรับการทำงานของอุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกัน
7.Portable Power Bank: เป็นเครื่องสำรองจ่ายไฟพกพาที่มีขนาดเล็กและสามารถชาร์จอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในที่ที่ไม่มีแหล่งพลังงานไฟฟ้า มักใช้ในการเดินทางหรือในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ควรเลือกประเภทของเครื่องสำรองจ่ายไฟที่เหมาะกับความต้องการและการใช้งานของคุณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและให้พลังงานไฟฟ้าแก่อุปกรณ์ของคุณ
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำรองจ่ายไฟ
การเลือกซื้อเครื่องสำรองจ่ายไฟ (Power Supply) ให้ตรงความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณได้รับเครื่องที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้พลังงานไฟฟ้าแก่อุปกรณ์ของคุณ ดังนี้:
1.กำหนดความต้องการของพลังงานไฟฟ้า: หากคุณทราบว่าคุณต้องการเครื่องสำรองจ่ายไฟสำหรับอุปกรณ์ที่มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่าใด คุณสามารถดูข้อมูลนี้ในอุปกรณ์เองหรือในคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ โดยปกติจะมีข้อมูลความต้องการของวัตต์ (Watt) ในอุปกรณ์
2.เลือกประเภทของเครื่องสำรองจ่ายไฟ: หลังจากที่คุณทราบความต้องการของพลังงานไฟฟ้าแล้ว คุณสามารถเลือกประเภทของเครื่องสำรองจ่ายไฟที่เหมาะสม โดยพิจารณาว่าคุณต้องการเครื่องสำรองจ่ายไฟแบบ Linear Power Supply (LPS) หรือ Switching Power Supply (SMPS) ตามความเหมาะสมและการใช้งานของคุณ
3.ความสามารถในการรับน้ำหนัก (Capacity): เครื่องสำรองจ่ายไฟมักมีความจุในการให้พลังงานไฟฟ้าในหน่วยวัตต์ (Watt) ความสามารถในการรับน้ำหนักขึ้นอยู่กับจำนวนและประเภทของอุปกรณ์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อ. ควรเลือกเครื่องสำรองจ่ายไฟที่มีความจุมากพอเหมาะกับอุปกรณ์ทั้งหมด
4.คุณภาพและยี่ห้อ: เลือกเครื่องสำรองจ่ายไฟจากยี่ห้อที่เชื่อถือได้และมีคุณภาพดี เนื่องจากเครื่องสำรองจ่ายไฟที่คุณเลือกควรเป็นอุปกรณ์ที่มีความเสถียรและปลอดภัย
5.คุณสมบัติเพิ่มเติม: ตรวจสอบว่าเครื่องสำรองจ่ายไฟมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่คุณต้องการ เช่น การป้องกันการไฟดับ (UPS) หรือการป้องกันการแรงดันไฟฟ้าตก (Voltage Fluctuations) และความสามารถในการรับน้ำหนักในสภาวะเฉพาะที่ เช่น การทนต่อการสั่นสะเทือนหรือสภาวะสภาพอากาศแปรปรวน
6.การควบคุมและการตรวจสอบ: คุณอาจต้องการเครื่องสำรองจ่ายไฟที่มีระบบควบคุมและการตรวจสอบเพื่อตรวจสอบสถานะและการทำงานของเครื่องสำรองจ่ายไฟได้อย่างง่ายดาย
7.ราคา: คุณควรพิจารณาราคาและงบประมาณของคุณ สามารถหาข้อมูลราคาและเปรียบเทียบระหว่างร้านค้าต่าง ๆ เพื่อหาเครื่องสำรองจ่ายไฟที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
การทำขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องสำรองจ่ายไฟที่เหมาะสมสำหรับความต้องการและการใช้งานของคุณ ช่วยให้คุณมีการสำรองจ่ายไฟที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับอุปกรณ์ของคุณ
ข้อดี-ข้อเสียของเครื่องสำรองจ่ายไฟ
เครื่องสำรองจ่ายไฟ (Power Supply) มีข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ซึ่งคุณควรพิจารณาเมื่อเลือกใช้งานเครื่องสำรองจ่ายไฟ ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียของเครื่องสำรองจ่ายไฟ:
ข้อดีของเครื่องสำรองจ่ายไฟ:
1.การป้องกันอุปกรณ์: เครื่องสำรองจ่ายไฟช่วยป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากการไฟดับ (Power Outage) หรือการแรงดันไฟฟ้าตก (Voltage Fluctuations) ซึ่งอาจทำให้อุปกรณ์เสียหายหรือเสียชีวิต
2.ความเสถียรและคุณภาพในการจ่ายไฟ: เครื่องสำรองจ่ายไฟมักมีความเสถียรและคุณภาพในการจ่ายไฟที่ดี ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ความสะดวกในการทำงาน: เครื่องสำรองจ่ายไฟมักมีระบบการทำงานที่อัตโนมัติ ซึ่งไม่ต้องมีการแทรกแซงจากผู้ใช้ และมักมีฟังก์ชันการตั้งค่าได้ (Adjustable Rate) เพื่อให้การจ่ายไฟที่ถูกต้อง
4.การสำรองข้อมูล: เครื่องสำรองจ่ายไฟประเภท UPS สามารถสำรองข้อมูลและปกป้องระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ จากการไฟดับ ซึ่งช่วยให้คุณไม่สูญเสียข้อมูลสำคัญ
ข้อเสียของเครื่องสำรองจ่ายไฟ:
1.ราคาสูง: เครื่องสำรองจ่ายไฟที่มีคุณภาพสูงมักมีราคาสูงกว่าเครื่องสำรองจ่ายไฟที่มีคุณภาพต่ำ ๆ นอกจากนี้ เครื่องสำรองจ่ายไฟประเภท UPS ยังต้องใช้แบตเตอรี่ที่ต้องเปลี่ยน ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
2.ขนาดและน้ำหนัก: เครื่องสำรองจ่ายไฟมักมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาในการติดตั้งและการจัดเก็บ
3.การสูญเสียพลังงาน: เครื่องสำรองจ่ายไฟมักมีการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าขณะการแปลงและการให้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
4.ความซับซ้อนในการบำรุงรักษา: บางเครื่องสำรองจ่ายไฟอาจต้องมีการบำรุงรักษาและเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นระยะ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน
5.สูญเสียความเสถียรภาพ: เครื่องสำรองจ่ายไฟประเภท SMPS อาจมีการสร้างรบกวนไฟฟ้า (Noise) ได้มากกว่า LPS ซึ่งอาจมีผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรและคุณภาพสูงในการจ่ายไฟ
การพิจารณาข้อดีและข้อเสียของเครื่องสำรองจ่ายไฟเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องการเลือกใช้งานเครื่องสำรองจ่ายไฟ เพื่อให้คุณตัดสินใจในการเลือกและใช้งานเครื่องสำรองจ่ายไฟอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
เครื่องสำรองจ่ายไฟ (Power Supply) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในระบบไฟฟ้า เพื่อจ่ายไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ในการให้พลังงานไฟฟ้าที่จำเป็นในการทำงานของอุปกรณ์เหล่านั้น
หน้าที่หลักของเครื่องสำรองจ่ายไฟ คือแปลงไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่เป็นไปได้เช่น ไฟฟ้าจากเสาไฟฟ้าหรือแหล่งพลังงานอื่น ๆ ให้เป็นไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของอุปกรณ์และอิเล็กทรอนิกส์ที่เราต้องการใช้งาน
เมื่อคุณเลือกเครื่องสำรองจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ของคุณ ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงความจุของเครื่องสำรองจ่ายไฟในหน่วยวัตต์ (Watt) และความต้องการพลังงานไฟฟ้าของอุปกรณ์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อ ในกรณีที่คุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับความต้องการของวัตต์ ควรติดต่อผู้ผลิตของอุปกรณ์หรือดูในข้อมูลทางเทคนิคของอุปกรณ์เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานไฟฟ้า
การต่อเครื่องสำรองจ่ายไฟ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:
- ตรวจสอบความเหมาะสมของเครื่องสำรองจ่ายไฟกับอุปกรณ์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อ
- ตรวจสอบสายไฟและช่องต่อ เพื่อให้แน่ใจว่ามันเข้ากันได้อย่างถูกต้อง
- เชื่อมต่อสายไฟจากเครื่องสำรองจ่ายไฟกับอุปกรณ์ที่ต้องการให้พลังงาน
- เชื่อมต่อสายไฟจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าเข้ากับเครื่องสำรองจ่ายไฟ
- เปิดเครื่องสำรองจ่ายไฟและเปิดเครื่องอุปกรณ์ของคุณ
เครื่องสำรองจ่ายไฟมักมีฟังก์ชั่นการป้องกันต่าง ๆ เพื่อรักษาอุปกรณ์จากปัญหาไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นที่สำคัญได้แก่:
- การป้องกันการไฟดับ (Power Outage)
- การป้องกันการแรงดันไฟฟ้าตก (Voltage Fluctuations)
- ป้องกันอุปกรณ์จากความแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียร
- การป้องกันการไฟขาดแรง (Under Voltage Protection)
- การป้องกันการไฟเกินแรง (Over Voltage Protection)
เครื่องสำรองจ่ายไฟมีอายุการใช้งาน โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 3 ถึง 5 ปี แต่อายุการใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการใช้งาน. สิ่งที่ควรทำเพื่อดูแลเครื่องสำรองจ่ายไฟได้ดีคือ:
- รักษาระยะเวลาการใช้งาน ในข้อกำหนดที่ระบุโดยผู้ผลิต
- รักษาความสะอาดของเครื่องสำรองจ่ายไฟ โดยไม่ให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้ามา
- ตรวจสอบสายไฟและช่องต่อ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสายแตกหรือช่องต่อเสีย
- ตรวจสอบเครื่องสำรองจ่ายไฟเป็นระยะ ๆ เพื่อแน่ใจว่าทำงานอย่างถูกต้อง